
ในขณะที่ข่าวเศรษฐกิจระดับประเทศมักโฟกัสไปที่ตัวเลข GDP การลงทุน และการท่องเที่ยวที่หวังจะดึงรายได้เข้าประเทศ แต่มีอีกด้านหนึ่งของความจริงที่น่ากังวลไม่แพ้กัน—หนี้ครัวเรือนของคนไทยที่กำลังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง
จากรายงานการวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยกำลังตกอยู่ในวงจรหนี้ซ้ำซ้อนจาก พฤติกรรมการใช้จ่ายที่ไม่สมดุลกับรายได้ โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้น้อยหรือครอบครัวชนชั้นกลางที่ต้องรับภาระทั้งหนี้บ้าน หนี้รถ ไปจนถึงบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
ปัญหานี้ดูเหมือนจะเงียบ แต่ความจริงมันกำลังสะสมแรงกดดันอย่างเงียบเชียบ
หนี้ที่ไม่ใช่แค่ตัวเลข
หลายครอบครัวต้องนำเงินเดือนของเดือนถัดไปมาใช้จ่ายเดือนนี้ กลายเป็นวงจรที่ไม่จบสิ้น ยิ่งเศรษฐกิจชะลอตัว รายได้ไม่เพิ่ม แต่ค่าครองชีพสูงขึ้น ก็ยิ่งทำให้ "กับดักหนี้" ตึงขึ้นเรื่อย ๆ
สิ่งที่น่ากังวลคือ เมื่อมีหนี้สูง ผู้บริโภคจะลดการจับจ่ายลง กระทบถึงธุรกิจรายย่อย เกิดการเลิกจ้าง หนี้เสียพุ่ง สะเทือนธนาคาร และสุดท้ายคือ "ระบบเศรษฐกิจฐานราก" ทั้งระบบสั่นคลอน
แล้วใครได้รับผลกระทบบ้าง?
- คนวัยทำงาน: แบกรับหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้เพื่อการศึกษาของลูก
- คนวัยเกษียณ: ไม่มีรายได้ แต่ยังมีภาระค้ำประกันลูกหลาน
- ผู้ประกอบการรายย่อย: ขาดกำลังซื้อจากลูกค้าเดิม
- สังคมโดยรวม: ช่องว่างทางเศรษฐกิจถ่างกว้างขึ้น
มีทางออกไหม?
ทางออกเริ่มจากนโยบายระดับชาติ เช่น การควบคุมดอกเบี้ย การส่งเสริมความรู้ทางการเงินในโรงเรียน การเข้าถึงแหล่งกู้ยืมที่ปลอดภัยสำหรับคนหาเช้ากินค่ำ และการปฏิรูประบบหนี้นอกระบบ
แต่ในระดับบุคคล อาจเริ่มได้จากการ “รู้ตัว” ว่าตัวเองกำลังใช้เงินแบบใด และจัดลำดับความจำเป็นให้ได้ก่อนที่จะสายเกินไป
บางทีสิ่งที่เศรษฐกิจไทยต้องการ อาจไม่ใช่เพียงแค่นโยบายกระตุ้น แต่คือการฟื้นคืนวินัยทางการเงินให้กลับมาเป็นวัฒนธรรมพื้นฐานอีกครั้ง
บางครั้ง “หนี้” ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่คือระเบิดเวลาที่สังคมต้องหันมาใส่ใจ ก่อนที่มันจะกระทบทุกคนแบบไม่เลือกหน้า
แหล่งข้อมูล:
- คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (2567). รายงานการศึกษาภาระหนี้ครัวเรือนไทย.
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT), ข้อมูลหนี้ครัวเรือน ไตรมาส 1/2567