ดอกเบี้ยขึ้น-ลง เกี่ยวกับเรายังไง?
ดอกเบี้ยไม่ใช่เรื่องของแบงก์อย่างเดียว
เคยได้ยินข่าวว่า "แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย" แล้วงงใช่ไหมครับว่า แล้วเราต้องทำยังไง? มันเกี่ยวกับเราตรงไหน? ความจริงแล้วเรื่องนี้เกี่ยวกับเราทุกคนมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะผ่อนบ้าน มีหนี้บัตรเครดิต หรือมีเงินเก็บในธนาคาร ก็โดนหมด
ลองมาดูกันแบบง่าย ๆ เหมือนคุยกับเพื่อนครับ ว่าดอกเบี้ยขึ้น-ลงส่งผลอะไรกับชีวิตประจำวันของเราได้บ้าง
1. ดอกเบี้ยขึ้น = ผ่อนแพงขึ้น
ถ้าคุณมีภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือกู้เงินที่ใช้ “ดอกเบี้ยลอยตัว” (เช่น MLR, MOR) การขึ้นดอกเบี้ยหมายถึง "ยอดผ่อนรายเดือนจะสูงขึ้น" เพราะธนาคารคิดดอกเบี้ยเพิ่ม
ตัวอย่าง: ถ้าผ่อนบ้านอยู่เดือนละ 15,000 บาท ดอกเบี้ยขึ้น 1% อาจทำให้ยอดผ่อนเพิ่มขึ้นเป็น 16,000-17,000 บาท
2. ดอกเบี้ยลง = หนี้เบาขึ้น
กลับกัน ถ้าดอกเบี้ยลด คนที่ผ่อนบ้านหรือรถจะจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง เงินต้นลดเร็วขึ้น ผ่อนหมดไวขึ้นด้วย
คนที่ผ่อนระยะยาว จะเห็นผลชัดเจนเมื่อดอกเบี้ยลง เช่น ยอดผ่อนบ้านลดลงหลักพันต่อเดือน
3. ดอกเบี้ยขึ้น = เงินฝากมี “ดอก” มากขึ้น
ข่าวดีสำหรับคนมีเงินเก็บ! เวลาดอกเบี้ยขึ้น ธนาคารจะให้ผลตอบแทนจาก "เงินฝากประจำ" หรือ "บัญชีดอกเบี้ยสูง" เพิ่มขึ้นด้วย แม้จะไม่เยอะมาก แต่ดีกว่าปล่อยเงินนอนนิ่ง
4. ดอกเบี้ยลง = คนลงทุนเสี่ยงมากขึ้น
เวลาฝากแบงก์ได้ดอกเบี้ยน้อย คนจะเริ่มมองหาทางอื่น เช่น หุ้น กองทุน หรือคริปโต ทำให้เม็ดเงินไหลไปสู่การลงทุนเสี่ยงมากขึ้น
นี่เป็นเหตุผลที่พอตลาดดอกเบี้ยต่ำ ตลาดหุ้นมักจะคึกคักขึ้น
5. ดอกเบี้ยกำหนด "อุณหภูมิเศรษฐกิจ"
ธนาคารกลาง (เช่น ธปท.) ใช้ดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือควบคุมเศรษฐกิจ
- ดอกเบี้ยขึ้น: สกัดเงินเฟ้อ ชะลอการกู้ยืม
- ดอกเบี้ยลง: กระตุ้นเศรษฐกิจ ชวนคนใช้จ่าย
เหมือนเปิด-ปิดแอร์ให้เย็นหรืออุ่นตามฤดูของเศรษฐกิจนั่นเองครับ
สรุป:
ดอกเบี้ยไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เกี่ยวกับทุกเรื่องในชีวิตเราทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีหนี้หรือมีเงินออม การเคลื่อนไหวของดอกเบี้ยส่งผลต่อการใช้จ่าย การผ่อน การเก็บเงิน และการลงทุนเสมอ
"เข้าใจดอกเบี้ย = เข้าใจการเงินของชีวิต"
ลองฝึกสังเกตข่าวดอกเบี้ยไว้บ้าง คุณจะวางแผนการเงินได้ฉลาดขึ้นอีกระดับ