
ในหลายประเทศ การข้ามถนนตรงทางม้าลายคือพื้นที่ปลอดภัยที่ผู้ขับขี่ต้องหยุดให้คนเดินเท้า แต่สำหรับประเทศไทย เส้นทางเหล่านั้นกลับกลายเป็น "จุดเสี่ยง" แทนที่จะเป็น "พื้นที่ปลอดภัย"
เรายังจำข่าวการสูญเสียของ “หมอกระต่าย” ได้ใช่ไหม? แพทย์หญิงที่เสียชีวิตกลางแยกพญาไท แม้จะข้ามถนนบนทางม้าลายก็ตาม เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน
ทางม้าลายไม่ใช่เกราะคุ้มกัน
แม้ในทางกฎหมายจะบัญญัติให้ผู้ขับขี่ต้องหยุดให้คนเดินข้ามก่อน แต่ในทางปฏิบัติกลับพบว่า มีเพียงไม่กี่คนที่เคารพกติกานี้จริงจัง หลายคนไม่หยุด หลายคนเร่งเครื่อง หลายคนแค่ “เหลือบมอง” แล้วขับผ่านไป ซึ่งอาจมีทั้งจากความรีบร้อน ไม่สนใจ หรือแม้แต่ “ไม่รู้” ว่าต้องหยุด
วัฒนธรรมถนนที่ไม่เห็นหัวคนเดินเท้า
เมื่อระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ครอบคลุม รถยนต์จึงกลายเป็นศูนย์กลางของการใช้ถนน และวัฒนธรรมบนถนนก็เอื้อให้คนขับมีสิทธิเหนือคนเดิน “ใครเร็ว ใครใหญ่ ใครมาก่อน” กลายเป็นหลักลอย ๆ ที่ครองเมือง ไม่ใช่กฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร
ทางแก้ที่ยังอยู่บนกระดาษ?
แม้หลายหน่วยงานจะออกมาให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความปลอดภัย เช่น ติดตั้งไฟสัญญาณอัตโนมัติ สร้างเนินชะลอความเร็ว หรือปรับปรุงเครื่องหมายจราจร แต่ประเด็นคือ บังคับใช้กฎหมายอย่างไร ให้ได้ผลจริง ไม่ใช่เพียงแค่แถลงข่าวแล้วเงียบหายไปตามกระแส
ถนนในเมืองไทย ไม่ควรเป็นพื้นที่ที่คนต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ข้าม
คำถามคือ…เราจะรอให้มีคนเสียชีวิตอีกกี่คน ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง?
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522
- รายงาน “Road Safety in Thailand” โดย WHO
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)