
เกิดอะไรขึ้นกับ “One Big Beautiful Bill” ของสหรัฐฯ
หลังการถกเถียงยืดเยื้อกว่า 17 ชั่วโมง สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ลงมติผ่าน “One Big Beautiful Bill” หรือร่างกฎหมายงบประมาณใหญ่ประจำปี ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่นโยบายภายในประเทศ ไปจนถึงการจัดสรรงบเพื่อเสริมกำลังพันธมิตรและการแข่งขันด้านเทคโนโลยีกับจีน จุดที่น่าสนใจคือ สหรัฐฯ เพิ่มงบสนับสนุนด้านเทคโนโลยีควอนตัม, AI, และความมั่นคงไซเบอร์ พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอินโดแปซิฟิก — ซึ่งแน่นอนว่าไทยอยู่ในวงโคจรนี้ด้วย
ผลกระทบโดยตรงและอ้อมต่อประเทศไทย
1. การปรับสมดุลภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค
บิลนี้ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มุ่งมั่นสร้างแนวร่วมทางยุทธศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไทยอาจได้รับการชักชวนให้ร่วมในแผนความร่วมมือด้านเทคโนโลยีหรือความมั่นคงไซเบอร์ เพื่อคานอำนาจกับจีน
2. โอกาสด้านเทคโนโลยี และการลงทุนใหม่
ไทยอาจได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตหรือศูนย์วิจัยจากบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากจีน หากรัฐไทยจัดนโยบายดึงดูดการลงทุนได้ดี จะเป็นช่องเปิดให้เกิดงาน-นวัตกรรมในประเทศ
3. ความกดดันด้านมาตรฐานและความโปร่งใส
เมื่อสหรัฐฯ จัดสรรงบเพื่อสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ความคาดหวังเรื่อง governance ก็จะมากขึ้น ไทยอาจต้องปรับตัวในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยไซเบอร์ ข้อมูลส่วนบุคคล และความโปร่งใสในการดำเนินงาน
4. สินค้าเกษตร-เทคโนโลยีไทยอาจได้ทางเข้าใหม่
บางมาตรการในบิลนี้เน้นสนับสนุนสินค้าจากพันธมิตรที่เป็น “มิตรทางเศรษฐกิจ” ซึ่งหากไทยมีบทบาทเชิงบวกในความร่วมมือนี้ อาจเปิดประตูการส่งออกบางรายการที่เคยถูกกีดกันมาก่อน
แล้วไทยควรขยับตัวอย่างไร?
สำหรับประเทศไทย บิลนี้คือการบ้านก้อนโตที่ต้องเลือกข้าง เลือกทาง และเลือกท่าที — โดยไม่ให้เสียสมดุลกับจีนในขณะที่อาจได้ประโยชน์จากการเปิดรับเทคโนโลยีหรือความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ การตั้งโต๊ะเจรจาแบบเฉพาะจุด เช่น ด้าน AI ความมั่นคงไซเบอร์ หรือระบบโลจิสติกส์ขั้นสูง อาจเป็นแนวทางที่ไทยใช้ “ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง” โดยไม่ติดกับดักภูมิรัฐศาสตร์
ในวันที่เกมใหญ่ระดับโลกขยับ — ประเทศเล็ก ๆ อย่างไทยอาจไม่ได้ต้องวิ่งนำเสมอ แต่ต้องรู้ว่าตำแหน่งไหนเหมาะที่สุดในกระดานนั้น
ข้อมูลอ้างอิง
- White House Budget Summary FY2025
- Congressional Record, June 2025
- Brookings Institution: Impact of Indo-Pacific Tech Alliance
- ASEAN Studies Centre, ISEAS