
เงินเฟ้อสูง แต่รายได้เท่าเดิม…เราจะเอายังไงดี?
ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่ง แต่ค่าแรงยังนิ่ง หลายคนเริ่มรู้สึกว่า “เงินเดือนเท่าเดิม แต่ใช้จ่ายได้ลดลง” นี่แหละคือผลของ ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) ที่ทำให้มูลค่าของเงินลดลงเมื่อเทียบกับราคาสินค้าและบริการ
คำถามคือ… แล้วเราจะวางแผนการเงินยังไงให้เอาตัวรอด?
วางแผนการเงินในยุคเงินเฟ้อ: ไม่ใช่แค่ประหยัด แต่ต้องปรับวิธีคิด
1. แยก “จำเป็น” กับ “ฟุ่มเฟือย” ให้ชัดเจน
เริ่มต้นด้วยการจดบันทึกรายจ่ายประจำอย่างน้อย 1 เดือน แล้วแยกหมวดให้ชัดเจน เช่น ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าบันเทิง ฯลฯ
ตัวอย่างการใช้จ่าย
-
ค่าอาหารกลางวันวันละ 60 บาท → เดือนละ 1,200 บาท
-
ค่ากาแฟวันละ 90 บาท → เดือนละ 1,800 บาท
เปลี่ยนนิสัยเล็ก ๆ เช่น ชงกาแฟกินเองที่บ้าน อาจลดรายจ่ายได้เดือนละพันบาทโดยไม่ต้องรู้สึกฝืน
2. ตั้งเป้าออมเงินแบบ “ยืดหยุ่นได้”
ไม่จำเป็นต้องยึดสูตร 30% ของรายได้แบบตายตัว เพราะช่วงนี้อะไร ๆ ก็แพง ลองใช้วิธี "ออมก่อนใช้" แทน
ตัวอย่างการออมแบบยืดหยุ่น
-
รายได้ 15,000 บาท → ออมก่อน 1,000–1,500 บาท
-
ส่วนที่เหลือค่อยแบ่งใช้ตามความจำเป็น
จุดสำคัญคือการออม “ให้ได้” แม้ไม่มาก แต่สม่ำเสมอ
3. ใช้สิทธิรัฐช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
สิทธิหลายอย่างจากภาครัฐสามารถช่วยแบ่งเบาค่าครองชีพได้มากกว่าที่คิด
ตัวอย่างสิทธิที่ควรใช้
สิทธิ | ใครมีสิทธิ | สมัครยังไง | ได้อะไร |
---|---|---|---|
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ | รายได้น้อย (<100,000 บาท/ปี) | สมัครผ่านกระทรวงการคลัง | ส่วนลดค่าเดินทาง, ค่าไฟ, เงินช่วยรายเดือน |
คนละครึ่ง | ทุกคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป | ลงทะเบียนผ่านแอป “เป๋าตัง” | รัฐช่วยจ่าย 50% เมื่อใช้จ่ายร้านค้าร่วมโครงการ |
ลดหย่อนภาษี | ผู้มีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษี | ยื่นภาษีผ่าน e-filing | ลดจำนวนเงินภาษีที่ต้องจ่าย |
4. หารายได้เสริมแบบไม่กระทบงานหลัก
งานเสริมไม่จำเป็นต้องหนักหรือใช้เวลาทั้งวัน ลองหาอะไรที่ “ทำได้ในเวลาว่าง” และ “ถนัด”
ไอเดียหารายได้เสริม
-
ขายของมือสองใน Facebook Marketplace หรือ Shopee
-
รับจ้างพิมพ์งาน แปลเอกสาร งานฟรีแลนซ์
-
ขับแกร็บหรือส่งอาหารในวันหยุด
เคสตัวอย่าง
คุณเอ มีรายได้ประจำ 15,000 บาท แต่สามารถหารายได้เพิ่มจากการขายของมือสองใน Shopee ได้เดือนละ 3,000 บาท — ทำให้ไม่ต้องเครียดกับรายจ่ายประจำเท่าเดิม
5. ลงทุนกับ “ความรู้” มากกว่า “ของฟุ่มเฟือย”
แทนที่จะผ่อนของใหม่ ลองถามตัวเองว่า… “ถ้าลงทุนกับทักษะแทน จะคุ้มกว่ามั้ย?”
ทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว
-
ลงเรียนคอร์สออนไลน์ราคาหลักร้อย เช่น ด้าน Excel, การตลาดออนไลน์ หรือภาษาอังกฤษ
-
เข้าร่วมกลุ่มเรียนรู้การเงินฟรี เช่น “The Money Coach” หรือ “ลงทุนแมน”
-
ฟังพอดแคสต์ด้านพัฒนาตัวเองระหว่างเดินทาง
ทักษะ = โอกาส และโอกาสอาจแปลงเป็นรายได้ใหม่ในอนาคตได้จริง
สรุป: อยู่ให้รอดในยุคเงินเฟ้อ ต้องคิดแบบนักวางแผน
-
แยกความจำเป็นกับความอยากให้ชัด
-
ตั้งเป้าออมเงินแบบไม่บีบตัวเองเกินไป
-
ใช้สิทธิประโยชน์จากรัฐให้ครบ
-
หารายได้เสริมที่ไม่รบกวนเวลาหลัก
-
ลงทุนกับตัวเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในอนาคต
ยุคนี้ไม่ได้อยู่รอดเพราะรายได้เยอะเสมอไป… แต่อยู่รอดเพราะวางแผนเก่งต่างหาก