
ในยุคที่ทุกอย่างอยู่ในมือถือ การขอพาสปอร์ตก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ปี 2025 นี้ กรมการกงสุลได้ปรับระบบให้คนไทยสามารถขอพาสปอร์ตออนไลน์ได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเข้าคิว ไม่ต้องจ้างคนดำเนินการ และไม่ต้องกลัวโดนโกง
ต่อไปนี้คือขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำเองได้แบบไม่ง้อใคร:
1. เตรียมเอกสารให้พร้อม
ก่อนจะจองคิวขอพาสปอร์ต ต้องเตรียมเอกสารให้ครบ:
-
บัตรประชาชนตัวจริง (สำหรับผู้ใหญ่)
-
เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องมีสูติบัตร และผู้ปกครองไปด้วย
-
ไม่มีสำเนาแล้วนะครับ ใช้ตัวจริงอย่างเดียว!
2. จองคิวผ่านแอป DLT Passport หรือเว็บไซต์
เข้าไปที่ https://passport.in.th หรือโหลดแอป “Dopa Passport” (ของจริงต้องลงท้ายด้วย @gov)
จากนั้นทำตามขั้นตอนนี้:
-
สมัครบัญชีผู้ใช้
-
เลือกจังหวัดและสาขาที่ต้องการไปทำพาสปอร์ต
-
เลือกวัน-เวลา และยืนยันการจอง
แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3–7 วัน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว
3. ไปตามนัด พร้อมใบหน้าและรอยยิ้ม
เมื่อถึงวันนัดหมาย:
-
นำบัตรประชาชนตัวจริงไป
-
ไม่ต้องแต่งหน้าจัด (รูปถ่ายจะใช้หน้าเปล่า ไม่มีแอปช่วย)
-
เจ้าหน้าที่จะตรวจเอกสาร ถ่ายรูป และเก็บลายนิ้วมือ
ใช้เวลาไม่เกิน 15–20 นาที (ถ้าไม่หลงทาง)
4. จ่ายเงิน แล้วรอรับที่บ้าน
ค่าธรรมเนียมปี 2025:
-
พาสปอร์ตแบบเล่มธรรมดา (5 ปี): 1,000 บาท
-
แบบด่วนพิเศษ หรือส่ง EMS: เพิ่มอีกประมาณ 60–150 บาท แล้วแต่บริการ
พาสปอร์ตจะจัดส่งถึงบ้านภายใน 5–7 วันทำการ
ระวัง! อย่าหลงเชื่อเพจหลอกจองคิว
มีหลายเพจบน Facebook และ LINE ที่อ้างว่า "ช่วยจองคิวพาสปอร์ตด่วน" พร้อมค่าบริการหลักร้อยถึงพันบาท บางรายหลอกขอข้อมูลส่วนตัวหรือเก็บเงินแล้วหายเงียบ
ขอให้ยึดแหล่งทางการเท่านั้น ได้แก่:
-
แอป Dopa Passport
-
เว็บไซต์ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
ไม่ต้องจ้างใคร ถ้าทำเองได้ขนาดนี้
การขอพาสปอร์ตวันนี้ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถ้าคุณรู้จักใช้มือถือให้เป็นประโยชน์ ทุกขั้นตอนก็ง่ายเหมือนสั่งกาแฟออนไลน์ ใช้เวลาจริงแค่ไม่กี่นาที แล้วออกเดินทางได้อย่างสบายใจ
เพราะบางที “ความยุ่งยาก” ก็แค่เรื่องของข้อมูลที่ไม่เคยถูกอธิบายให้เข้าใจง่ายพอ และวันนี้ คุณก็มีมันในมือแล้ว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ: https://consular.mfa.go.th
- เว็บไซต์จองคิวทำพาสปอร์ต: https://passport.in.th