
วันหนึ่ง...เราอาจไม่ต้องเดินเข้าธนาคารอีกเลย
การถือกำเนิดของเทคโนโลยีการเงินใหม่ ๆ ตั้งแต่ Mobile Banking, e-Wallet, พร้อมเพย์ ไปจนถึง Decentralized Finance (DeFi) ทำให้ “ธนาคาร” ไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางของระบบการเงินอีกต่อไปเหมือนในอดีต โลกกำลังเคลื่อนไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “การเงินแบบกระจายศูนย์” ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงระบบการเงินได้โดยไม่ต้องมีตัวกลางอย่างสถาบันธนาคาร
โลกกำลังเปลี่ยน: ธนาคารไม่ใช่ทุกอย่างอีกต่อไป
ในต่างประเทศ เราเริ่มเห็นคนรุ่นใหม่ “ไม่เปิดบัญชีธนาคาร” กันมากขึ้น เพราะพวกเขาเลือกใช้แพลตฟอร์มอื่นที่เร็วกว่า ถูกกว่า และไม่ต้องรอคิว ไม่ว่าจะเป็น Stablecoin, Crypto Wallet หรือการใช้ Smart Contract บนบล็อกเชนเพื่อกู้เงิน จ่ายดอกเบี้ย หรือแม้แต่ส่งเงินระหว่างประเทศภายในไม่กี่วินาที
หากวันหนึ่งการจ่ายเงินทั้งหมดของคุณ ไม่ต้องผ่านธนาคารอีกต่อไป — คุณจะใช้ชีวิตยังไง?
แล้วคนไทยล่ะ...จะก้าวตามยังไง?
ต้องยอมรับว่า ระบบพร้อมเพย์และการผลักดัน Digital Payment ของไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความคุ้นเคยให้ประชาชนไม่น้อย แต่นั่นยังเป็นเพียงการเปลี่ยนผ่าน ยังไม่ใช่ “การปฏิวัติ”
ในระบบ DeFi ผู้ใช้งานต้องมีความเข้าใจในการเก็บรักษา Private Key, การเชื่อมต่อกับ Wallet และการตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ด้วยตนเอง ซึ่งต่างจากการมีธนาคารคอยดูแลบัญชีและแจ้งเตือนอัตโนมัติ
คำถามคือ: เราพร้อมหรือยังกับโลกที่ไม่มี Call Center ไม่มีพนักงานธนาคารให้โทรหา และไม่มีระบบรับรองหากคุณพลาดส่งเงินผิดกระเป๋า?
โอกาส หรือ ความเสี่ยง?
การไม่มีธนาคารอาจลดต้นทุนทางการเงิน และเปิดพื้นที่ให้คนที่เคย “เข้าไม่ถึง” เช่น แรงงานนอกระบบ คนในชนบท หรือผู้ไม่มีหลักฐานทางการเงิน ได้มีสิทธิ์ในการกู้ยืมหรือเก็บออมผ่านแพลตฟอร์มใหม่ ๆ
แต่ในทางกลับกัน การไม่มีตัวกลางก็ดึงความรับผิดชอบมาไว้ที่ “ผู้ใช้เองทั้งหมด” หากโดนหลอกหรือส่งผิด ไม่มีใครช่วยเหลือ — และนั่นคือจุดเปราะบางที่สุดของระบบกระจายศูนย์
ในวันที่ธนาคารไม่ใช่ศูนย์กลางของเงินอีกต่อไป การรู้เท่าทันระบบการเงินใหม่อาจไม่ใช่แค่เรื่องของเทรนด์ แต่คือทักษะเอาตัวรอดที่คนไทยควรมีติดตัวไว้ตั้งแต่วันนี้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- รายงานของ World Economic Forum (2023) เรื่อง The Future of Decentralized Finance
- ธนาคารแห่งประเทศไทย: รายงาน ทิศทางการเงินดิจิทัลของประเทศไทย (2566)