
คำว่า “Content is King” อาจยังจริงอยู่บางส่วน แต่ในยุคที่โลกหมุนเร็ว ความเร็วของการเปลี่ยนแปลงแทบไม่เปิดโอกาสให้ใครตั้งหลักนาน ๆ คำถามสำคัญคือ ไม่ใช่แค่ ใครมีคอนเทนต์ แต่ คอนเทนต์แบบไหนที่ยังอยู่รอดได้?
อยู่ให้เป็นในยุคที่อัลกอริทึมเปลี่ยนรายวัน
ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับอัลกอริทึมบ่อยจนนักทำคอนเทนต์ตามไม่ทัน ถ้าคุณยังยึดติดกับรูปแบบเดิม ๆ โดยไม่มองว่าแพลตฟอร์มต้องการอะไร หรือผู้คนกำลังเปลี่ยนวิธีเสพคอนเทนต์อย่างไร คอนเทนต์ของคุณก็อาจกลายเป็นแค่เสียงเบา ๆ ท่ามกลางคลื่นข้อมูลมหาศาล
ปรับให้เข้ากับ "พฤติกรรม" ไม่ใช่แค่ "เทรนด์"
การตามเทรนด์เป็นเรื่องดี แต่จะดีกว่าถ้าคุณเข้าใจพฤติกรรมที่อยู่เบื้องหลังเทรนด์นั้น เช่น ทำไมคนถึงหันไปเสพวิดีโอสั้นมากขึ้น? หรือทำไมบทความยาวบางเรื่องถึงยังมีคนอ่านจบ? การเข้าใจจุดนี้จะทำให้คุณวางรูปแบบคอนเทนต์ได้ตรงจุดมากกว่าแค่ตามกระแส
ไม่ต้องใหม่เสมอไป แต่อย่าซ้ำซาก
คอนเทนต์ที่อยู่รอดไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่เสมอไป แต่ต้องนำเสนอด้วยวิธีที่ “สด” หรือ “แปลก” พอจะทำให้คนรู้สึกว่าอยากหยุดดู เช่น หยิบเรื่องเดิมมาเล่าจากมุมที่ยังไม่มีใครพูดถึง หรือใช้สไตล์การเล่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
พึ่งพาแพลตฟอร์ม แต่ต้องไม่พึ่งหมดใจ
จะ YouTube, TikTok, Instagram หรือ Facebook ทุกแพลตฟอร์มคือช่องทาง ไม่ใช่บ้านถาวร การมีคอนเทนต์ที่ดีควรมาคู่กับการสร้าง "พื้นที่ของตัวเอง" เช่น เว็บไซต์ หรือจดหมายข่าว เพื่อให้คอนเทนต์ไม่สูญหายไปกับนโยบายหรือระบบของแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ
การอยู่ให้เป็นไม่ใช่แค่รู้ว่าโลกเปลี่ยน แต่ต้องรู้ว่าเราจะปรับตัวอย่างไรโดยยังรักษาแก่นของสิ่งที่เราอยากสื่อสารไว้ได้ครบ นี่แหละหัวใจของคอนเทนต์ที่อยู่รอด ไม่ใช่เพราะดัง แต่เพราะรู้จักยืดหยุ่น และอยู่ในจังหวะที่ใช่
แหล่งข้อมูล:
- Harvard Business Review – The Content Trap
- Content Marketing Institute – Trends in Consumer Content Preferences