บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมายในไทย! รู้ทันข้อห้ามและบทลงโทษ พร้อมจับตานโยบายรัฐที่อาจเปลี่ยน
แม้บุหรี่ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่วัยรุ่นและคนทำงานในหลายประเทศ แต่ ในประเทศไทย บุหรี่ไฟฟ้ายังถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีการควบคุมอย่างเข้มงวดในหลายมิติ ตั้งแต่การนำเข้า ครอบครอง ไปจนถึงการจำหน่าย
ห้ามนำเข้าและขาย:
ประเทศไทยประกาศ ห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2557 โดยอ้างอิงตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ หากฝ่าฝืนจะเข้าข่ายนำเข้าสินค้าต้องห้าม มีโทษตามกฎหมายศุลกากร และอาจถูกยึดของกลาง
การครอบครองก็ผิด:
แม้จะไม่ได้นำเข้าเอง แต่ การครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อใช้งานส่วนตัว ก็ยังถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและยึดอุปกรณ์ได้ และผู้ถูกจับอาจถูกฟ้องในข้อหาครอบครองของผิดกฎหมาย
โทษตามกฎหมาย:
-
โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ
-
ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือ
-
ทั้งจำทั้งปรับ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
แนวโน้มทบทวนนโยบาย:
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการถกเถียงกันในวงกว้างเกี่ยวกับการปรับท่าทีของรัฐ โดยบางฝ่ายเสนอว่า ควรเปิดเสรีบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีการควบคุม เช่น เก็บภาษีหรือกำหนดอายุผู้ใช้ เนื่องจากเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป และช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ลงได้
แต่ฝ่ายคัดค้าน เช่น กระทรวงสาธารณสุข ยังคงยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพและเยาวชน โดยมีการล่อลวงผ่านโซเชียลและการโฆษณาแบบแฝง ส่งผลให้วัยรุ่นไทยเริ่มเสพติดสารนิโคตินเร็วขึ้น
ข้อแนะนำสำหรับประชาชน:
-
หลีกเลี่ยงการซื้อหรือใช้บุหรี่ไฟฟ้าในไทย
-
หากพบเห็นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้
-
ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอย่างใกล้ชิด