
ดราม่าขึ้นก่อน เพราะเราให้ความสนใจมันก่อน
อัลกอริทึมไม่ได้เลือกเอง — เราต่างหากที่เลือก
เวลาคุณกดดูโพสต์ดราม่า แชร์คอมเมนต์หรือแม้แต่อยู่ดูจนจบ อัลกอริทึมเรียนรู้ทันทีว่า “นี่คือสิ่งที่คุณชอบ” — แม้คุณจะไม่ได้ตั้งใจจะ ‘ชอบ’ ก็ตาม แพลตฟอร์มอย่าง Facebook, TikTok หรือ X ไม่ได้มีเจตนาโดยตรงในการผลักดันดราม่า แต่ใช้ พฤติกรรมของคุณ มาประมวลผลแล้วคัดเลือกเนื้อหาที่คล้ายกันมาป้อนต่อ
เพราะอารมณ์คือเชื้อเพลิง
เนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์ — ไม่ว่าจะโกรธ สะใจ หรือเศร้า — มักดึงดูดการมีส่วนร่วมได้มากกว่าเนื้อหาเชิงความรู้ที่เย็นกว่า และยิ่งมีการมีส่วนร่วมมาก อัลกอริทึมก็ยิ่งเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่ควรขยายผล
ทำไม ‘ความรู้’ ถึงตามหลัง
มันไม่ได้ “ติดใจ” เท่าดราม่า
ลองนึกถึงบทความวิชาการยาว ๆ เทียบกับวิดีโอคนทะเลาะกันในคอมเมนต์ — แบบไหนที่คุณจะกดดูทันที? เนื้อหาความรู้มักต้องการเวลาในการเข้าใจ และไม่ได้จุดกระแสไวเท่า "เรื่องร้อน ๆ" ทำให้ในระบบที่วัดผลจาก engagement — ความรู้มักตามไม่ทัน
แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีคนสนใจ
กลุ่มคนที่ตามหาเนื้อหาเชิงลึกยังมีอยู่มาก และหลายแพลตฟอร์มเริ่มทดลองพัฒนาโมเดลที่ให้คะแนนกับความน่าเชื่อถือมากขึ้น เช่น Threads หรือการจัดอันดับความถูกต้องของโพสต์ใน X
อัลกอริทึมไม่ผิด—แต่มันสะท้อนเรา
มันเป็น “กระจก” ของพฤติกรรมมนุษย์
อัลกอริทึมไม่คิดเอง แต่ “เรียนรู้” จากเรา — ความสนใจของคนหมู่มากจึงกลายเป็นตัวกำหนดสิ่งที่แพลตฟอร์มเลือกแสดง และหากเราหมกมุ่นกับดราม่า อัลกอริทึมก็ยิ่งตอกย้ำมันกลับมาเหมือนลูปที่ไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง?
- ตั้งใจคลิกเนื้อหาคุณภาพ แม้จะไม่หวือหวา
- ปรับการติดตามเพจ ช่อง หรือบุคคลที่ผลิตคอนเทนต์สาระ
- ใช้เวลาบนแพลตฟอร์มให้สมดุลระหว่าง "บันเทิง" กับ "เรียนรู้"
บางทีสิ่งที่เราควรถามไม่ใช่ “ทำไมมันถึงขึ้นฟีด?” แต่เป็น “ทำไมเราถึงกดเข้าไปดู?”
อัลกอริทึมไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกเราเสมอไป — มันเรียนรู้จากทุกการกระทำของเรา และบางครั้ง…การเปลี่ยนแปลงฟีดอาจเริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเราเอง