
ถ้าคุณเคยกินจิ้งหรีดทอดตอนเด็ก ๆ แล้วรู้สึกว่าเป็นของแปลกเฉพาะบ้านเรา อาจต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ เพราะวันนี้ “จิ้งหรีดไทย” กำลังถูกพูดถึงในระดับโลกในฐานะแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
หลายประเทศเริ่มมองหาโปรตีนทางเลือกเพื่อรองรับประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแมลงกลายเป็นหนึ่งในคำตอบสำคัญ ด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่น
-
ใช้น้ำน้อยกว่าเนื้อสัตว์ใหญ่
-
ปล่อยคาร์บอนต่ำ
-
เลี้ยงในพื้นที่เล็ก ๆ ได้
-
มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และมีไฟเบอร์
จิ้งหรีดไทยมีดีอะไร?
ประเทศไทยมีฟาร์มจิ้งหรีดจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอันดับต้น ๆ ของโลก ฟาร์มเหล่านี้พัฒนาไปมากจากฟาร์มแบบบ้าน ๆ กลายเป็นโรงงานมาตรฐานสากรณ์ ส่งออกไปยังยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น
การแปรรูปก็เป็นอีกก้าวสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ผงโปรตีนจิ้งหรีด, บิสกิตจากจิ้งหรีด, เส้นพาสต้า ไปจนถึง อาหารเสริมโปรตีนแบบพกพา สำหรับสายฟิตเนส
ความท้าทายยังมีอยู่
แม้จะดูดี แต่ก็ยังมีอุปสรรคหลายอย่างที่ต้องฝ่าฟัน เช่น
-
การยอมรับของผู้บริโภคที่ยังติดภาพว่าแมลงคือ “ของแปลก”
-
กฎระเบียบด้านอาหารในหลายประเทศที่ยังไม่รองรับ
-
การสร้างมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัยอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การผลักดันจากหน่วยงานวิจัย เช่น FAO (องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ) ที่ยกให้แมลงเป็น “อาหารแห่งอนาคต” ก็กำลังช่วยเปิดทางให้วงการอาหารจากแมลงเติบโตได้ในระยะยาว
จิ้งหรีดไทยจึงไม่ได้เป็นแค่ของกินเล่นอีกต่อไป แต่เป็นความหวังใหม่ที่อาจกลายเป็น “โปรตีนสัญชาติไทย” ที่ส่งออกไปเลี้ยงโลก
บางที อนาคตของโปรตีนอาจกำลังกระโดดอยู่ในฟาร์มเล็ก ๆ ที่อีสานก็ได้นะ
แหล่งข้อมูล:
- FAO. (2013). Edible insects: Future prospects for food and feed security.
- International Platform of Insects for Food and Feed (IPIFF)
- โครงการพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปแมลงโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์