
ทำไมวัยทำงานต้องมีแอปช่วยกันเงินรั่ว?
หลายคนอาจคิดว่า “ฉันไม่ได้ฟุ่มเฟือย” แต่พอสิ้นเดือนกลับงงว่ารายจ่ายหายไปไหนหมด นั่นอาจเป็นเพราะเรามองข้ามค่าใช้จ่ายเล็กน้อยที่รวมกันกลายเป็นเงินก้อนโดยไม่รู้ตัว แอปพลิเคชันช่วยบริหารเงินจึงกลายเป็นผู้ช่วยลับที่ควรมีไว้ในทุกมือถือ
5 แอปจัดการการเงินที่ใช้งานง่าย และช่วยคุมเงินรั่วได้จริง
1. Piggipo — ผู้จัดการบัตรเครดิตตัวฉกาจ
ถ้าใช้บัตรเครดิตหลายใบ แอปนี้คือของจำเป็น เพราะสามารถบันทึกวงเงิน ค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และกำหนดรอบชำระให้เตือนแบบไม่พลาด เหมาะกับคนที่ไม่อยากโดนชาร์จดอกเบี้ยแบบไม่ตั้งใจ
2. Spendee — เช็กสุขภาพกระเป๋าสตางค์ได้ทุกวัน
Spendee เหมาะกับคนที่อยากเห็นภาพรวมการเงินในรูปแบบแผนภูมิ ใช้ง่ายมาก และซิงก์กับบัญชีธนาคารได้ แถมตั้งงบประมาณต่อหมวด เช่น กิน เที่ยว ได้ด้วย
3. Toshl Finance — แอปสายกราฟิกที่ใช้งานสนุก
จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ดูขี้เล่น มีมาสคอตน่ารัก แต่ฟังก์ชันการใช้งานไม่เล่นเลย ตั้งค่าได้ละเอียดมาก ทั้งสกุลเงินหลายประเทศ แผนรายรับรายจ่าย และการแจ้งเตือนล่วงหน้า
4. Wallet by BudgetBakers — ตัวช่วยวางแผนรายจ่ายแบบมือโปร
เหมาะสำหรับคนที่จริงจังกับการวางแผนการเงิน Wallet สามารถเชื่อมต่อกับธนาคารได้โดยตรง มีระบบแยกรายรับรายจ่ายอัตโนมัติ และส่งรายงานแบบเรียลไทม์ให้ดูทุกวัน
5. Monefy — แอปมินิมอลสำหรับคนที่ไม่อยากยุ่งยาก
เหมาะกับคนที่ต้องการแค่ “บันทึก” แบบไว ๆ ใช้ไม่กี่ฟีเจอร์ Monefy มีไอคอนสวย ๆ ใช้งานง่าย และสรุปรายจ่ายต่อวันได้ในคลิกเดียว
เคล็ดไม่ลับ: เลือกแอปที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ไม่มีแอปไหนดีที่สุดสำหรับทุกคน เพราะพฤติกรรมการใช้เงินของแต่ละคนต่างกัน ลองสังเกตว่าเราต้องการอะไรจากแอปเหล่านี้ เช่น ต้องการเห็นภาพรวมรายจ่าย? ต้องการเตือนรอบบัตรเครดิต? หรืออยากคุมงบอาหารแต่ละเดือน? จากนั้นเลือกแอปที่ตอบโจทย์ที่สุด แล้วใช้ให้สม่ำเสมอ
บางครั้งแค่ “รู้ตัว” ก็ช่วยให้ใช้เงินอย่างมีสติขึ้น
การใช้แอปกันเงินรั่วไม่ได้แปลว่าเราขี้ตระหนี่ แต่มันคือวิธีดูแลสุขภาพทางการเงินของตัวเอง ไม่ว่าจะเพื่อเก็บเงินให้ได้สักก้อนไปเที่ยว หรือแค่เลิกงงสิ้นเดือนว่าเงินหายไปไหน การมีผู้ช่วยดิจิทัลไว้คอยเตือนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย