
การช้อปออนไลน์ของคนไทยอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อแบรนด์ใหญ่จากจีนอย่าง Taobao และ Tmall เริ่มขยับขยายเข้ามาในประเทศไทย พร้อมอินเทอร์เฟซภาษาไทยเต็มรูปแบบ รองรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายที่ไม่ถนัดภาษาจีนมาก่อน การแปลภาษาไทยไม่ใช่แค่ความสะดวกในการใช้งาน แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญของ Alibaba Group ในการรุกตลาดอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีอัตราการซื้อสินค้าออนไลน์สูงที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาค
นอกจาก Taobao แล้ว ยังมีแพลตฟอร์มใหม่ ๆ อย่าง Temu, Pinduoduo, และ JD.com ที่เริ่มสร้างฐานผู้ใช้ในไทยผ่านโปรโมชันแรงและระบบขนส่งที่รวดเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น Temu ใช้กลยุทธ์ส่งฟรี ไม่มีขั้นต่ำ และดีไซน์แอปที่เข้าใจง่าย เพื่อตีตลาดกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน
สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อแพลตฟอร์มเหล่านี้เริ่มรองรับภาษาไทย มันก็ไม่ได้แปลว่าแค่แปลหน้าเว็บเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริการลูกค้า, วิธีจ่ายเงิน, และระบบติดตามพัสดุที่ออกแบบให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคไทยมากขึ้น
แล้ว Shopee กับ Lazada ล่ะ? แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยู่เฉย กลับพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมผู้ขายไทยและเชื่อมต่อกับโลจิสติกส์ในประเทศ เพื่อรักษาความได้เปรียบเชิงพื้นที่
เมื่อผู้บริโภคไทยเริ่มมีทางเลือกมากขึ้น การแข่งขันครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องของ “ใครถูกกว่า” แต่จะเป็นเรื่องของ “ใครเข้าใจเราได้มากกว่า” ต่างหาก
บางทีคำว่า “ตลาดอีคอมเมิร์ซ” ก็ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มอีกต่อไป แต่มันคือพื้นที่ที่ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมทุกวัน ใครที่เข้าใจก่อน ยืดหยุ่นกว่า และฟังเสียงผู้ใช้ได้จริง อาจเป็นผู้ชนะที่แท้จริง — ไม่ว่ามาจากประเทศไหน