
ในยุคที่ AI สามารถสร้างภาพยนตร์ โปสเตอร์ เพลง หรือแม้แต่บทพูดได้ในพริบตา คำถามใหญ่จึงตามมาทันทีว่า—AI สร้างเองจริงหรือแค่ลอกแบบฉลาด ๆ?
Hollywood ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความคิดสร้างสรรค์ กำลังเผชิญปัญหานี้แบบเต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง นักวาดภาพ หรือคนเขียนบท หลายคนเริ่มฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีว่า “ใช้ผลงานของพวกเขาในการฝึก AI โดยไม่ได้รับอนุญาต”
AI เรียนรู้จากอะไร?
ระบบ AI อย่าง Stable Diffusion หรือ Midjourney ต้อง "เรียนรู้" จากภาพนับล้าน ซึ่งมาจากอินเทอร์เน็ต และบ่อยครั้งก็มีผลงานของศิลปินจริง ๆ ปะปนอยู่ด้วย เช่น ภาพวาดจาก ArtStation หรือโปสเตอร์จาก IMDb ซึ่งบางกรณีมีลายน้ำหรือชื่อศิลปินติดอยู่ชัดเจน
คำถามคือ: การเรียนรู้แบบนี้ถือเป็นการละเมิดหรือเปล่า?
ศิลปินควรได้รับค่าตอบแทนหรือไม่?
ในมุมของศิลปิน พวกเขาไม่ได้คัดค้าน AI โดยตรง แต่ต้องการ "ระบบที่ยุติธรรม" หากผลงานถูกใช้ในการพัฒนาโมเดล AI ก็ควรได้รับเครดิตหรือค่าตอบแทน เช่นเดียวกับนักแต่งเพลงที่ได้รับค่าลิขสิทธิ์เมื่อมีคนนำเพลงไปใช้
มีการเสนอโมเดลแบบ “Data Provenance” ที่ AI ต้องระบุว่าเรียนรู้จากแหล่งใดบ้าง เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าใช้ข้อมูลของใคร และจ่ายเงินคืนใครได้บ้าง
Hollywood เริ่มลงมือแล้ว
คดีฟ้องร้องหลายคดีถูกยื่นในสหรัฐฯ เช่น กรณีของนักเขียนบทภาพยนตร์ที่ฟ้องบริษัท OpenAI หรือคดีของ Getty Images ที่ฟ้อง Stability AI ว่าใช้ภาพถ่ายกว่า 12 ล้านภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต
แม้ศาลยังไม่ได้ตัดสินชี้ขาด แต่การเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำให้วงการบันเทิงเริ่มกำหนด “ขอบเขต” ใหม่ระหว่างสิทธิ์ของคนสร้างสรรค์ และความสามารถของระบบอัตโนมัติ
แล้วเราควรมอง AI เป็นเพื่อนหรือศัตรู?
AI ไม่ใช่ศัตรู แต่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่จะไว้ใจได้ทุกกรณี หากไม่มีกรอบการใช้ที่ชัดเจน ระบบอัตโนมัติอาจขยาย “ช่องโหว่” ที่ทำให้ผู้สร้างสรรค์ตกขอบ
บางคนเสนอแนวคิดว่า หาก AI จะเป็นศิลปิน มันก็ควร “เคารพศิลปินคนอื่นด้วย” — ไม่ใช่แค่ใช้ผลงานเป็นเชื้อไฟ โดยไม่เหลียวแลต้นทางเลย
เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ ศิลปะอาจไม่ต้องใช้ศิลปิน — แต่ก็ยังไม่มีใครตอบได้แน่ชัดว่า แบบนั้นยังเรียกว่าศิลปะอยู่ไหม
บางที คำถามที่สำคัญไม่ใช่แค่ว่าใครควรได้ค่าตอบแทน…
แต่คือ เราจะรักษาคุณค่าของความเป็นมนุษย์ไว้ได้อย่างไร ท่ามกลางความสามารถของเครื่องจักร?