
ค่าแรงในเอเชีย: ประเทศไหนถูกสุด แพงสุด?
คุณเคยสงสัยไหมว่า คนทำงานในประเทศเพื่อนบ้านของเรานั้นได้รับค่าแรงเท่าไร? ทำไมบางประเทศถึงดึงดูดนักลงทุนได้มากกว่า ในขณะที่บางแห่งคนยังต้องดิ้นรนกับรายได้ขั้นต่ำ? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจค่าแรงขั้นต่ำในแต่ละประเทศในเอเชีย พร้อมเปรียบเทียบแบบเข้าใจง่าย
ค่าแรงขั้นต่ำในเอเชีย: ใครจ่ายมาก ใครจ่ายน้อย?
1. ประเทศที่ "ค่าแรงแพง" ที่สุดในเอเชีย
- สิงคโปร์: แม้จะไม่มี "ค่าแรงขั้นต่ำแบบเป็นทางการ" สำหรับทุกอาชีพ แต่หลายสาขามีค่าจ้างเฉลี่ยสูง เช่น พนักงานโรงแรมอาจได้ถึง 2,000–3,000 SGD ต่อเดือน (ประมาณ 50,000–75,000 บาท)
- ญี่ปุ่น: ค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยประมาณ 1,000 เยน/ชั่วโมง (ประมาณ 250 บาท) หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับจังหวัด
- เกาหลีใต้: ปี 2025 มีค่าแรงขั้นต่ำ 9,860 วอน/ชั่วโมง (ประมาณ 260 บาท)
2. ประเทศที่ "ค่าแรงถูก" ที่สุดในเอเชีย
- เมียนมา: ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 4,800 จ๊าต/วัน (ประมาณ 80–90 บาท)
- กัมพูชา: อุตสาหกรรมการผลิตโดยเฉพาะเสื้อผ้า จ่ายขั้นต่ำ 204 ดอลลาร์/เดือน (ประมาณ 7,500 บาท)
- บังกลาเทศ: ขึ้นชื่อเรื่องแรงงานราคาถูก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสิ่งทอ
3. แล้ว "ไทย" อยู่ตรงไหน?
- ไทยมีค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 330–370 บาทต่อวัน แล้วแต่จังหวัด
- เทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ไทยอยู่ในระดับ "กลางค่อนไปทางสูง"
- อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับค่าครองชีพในบางพื้นที่ คนยังรู้สึกว่า “ไม่พอใช้”
ปัจจัยที่ทำให้ค่าแรงแตกต่างกัน
- ค่าครองชีพในประเทศนั้น ๆ
- นโยบายแรงงานและรัฐสวัสดิการ
- การพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
- ความสามารถต่อรองของแรงงาน (แรงงานฝีมือมีค่ากว่า)
ค่าแรงกับโอกาสของแรงงานไทย
- ค่าแรงที่เหมาะสม = คุณภาพชีวิตที่ดี
- หากพัฒนาทักษะให้แรงงานไทยมีฝีมือมากขึ้น จะสามารถต่อรองค่าจ้างได้สูงขึ้น
- ค่าแรงต่ำไม่ใช่ข้อดีเสมอไป หากไม่ได้พัฒนาอย่างยั่งยืน
สรุปและแนวคิดต่อยอด
การเปรียบเทียบค่าแรงในเอเชียทำให้เราเห็นภาพว่า เศรษฐกิจ การเมือง และทักษะของแรงงานมีผลต่อรายได้อย่างชัดเจน ประเทศที่ดูเหมือนจะจ่ายน้อย อาจได้เปรียบในบางด้าน แต่ก็อาจแลกมาด้วยคุณภาพชีวิตที่ต่ำกว่า
"ค่าแรงไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นภาพสะท้อนของความเท่าเทียมและคุณค่าของมนุษย์ในระบบเศรษฐกิจ"