
ถ้ามองเผิน ๆ การที่รัฐบาลบางประเทศทุ่มเงินมหาศาลไปกับการจัดการแข่งขันกีฬา หรือสร้างสนามกีฬาใหม่ ๆ ทั้งที่ยังมีปัญหาเรื่องการศึกษา ระบบสาธารณสุข หรือความยากจน อาจฟังดูย้อนแย้ง และชวนตั้งคำถามว่า "จำเป็นแค่ไหน?"
แต่ในมุมของรัฐ การลงทุนในกีฬามักไม่ได้มองแค่เรื่องกีฬาเท่านั้น
กีฬา = เครื่องมือทางเศรษฐกิจ
การจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ เช่น โอลิมปิก หรือฟุตบอลโลก มักมาพร้อมเม็ดเงินมหาศาล ทั้งจากนักท่องเที่ยว ลิขสิทธิ์ถ่ายทอด การสร้างงาน ไปจนถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ เช่น ระบบขนส่งสาธารณะ หรือสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่จะคงอยู่ยาวนานหลังการแข่งขันจบลง
เกาหลีใต้เคยใช้โอลิมปิกปี 1988 เป็นเวทีแสดงศักยภาพหลังการเปลี่ยนผ่านจากเผด็จการทหาร ส่วนกาตาร์ลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์กับฟุตบอลโลก 2022 เพื่อยกระดับประเทศในสายตานานาชาติ
กีฬา = พลังสร้างอัตลักษณ์และความภูมิใจ
ในช่วงที่ประเทศเผชิญกับวิกฤตภายใน การมีนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จสามารถกลายเป็นแรงบันดาลใจ และสร้างความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติได้
ลองนึกถึงช่วงที่ “ทีมหมูป่า” ติดถ้ำหลวง — แม้ไม่ใช่การแข่งขันกีฬา แต่การมีทีมกู้ภัยจากทั่วโลก และการช่วยเหลือที่สำเร็จ ก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้สึกเชื่อมโยงกันมากขึ้น
กีฬา = เครื่องมือทางการทูต
หลายประเทศใช้กีฬาสร้างสัมพันธ์ระหว่างชาติ เช่น “การทูตกีฬา” ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในยุคสงครามเย็น ผ่านการแข่งขันปิงปอง หรือแม้แต่เกาหลีเหนือที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมโอลิมปิกเพื่อแสดงท่าทีเปิดกว้าง
แต่อีกด้านหนึ่ง...
การลงทุนในกีฬาอาจถูกใช้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือสร้างภาพลักษณ์ชั่วคราว ในขณะที่ปัญหาพื้นฐานของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขจริงจัง
ดังนั้น ไม่ใช่ทุกการลงทุนด้านกีฬาจะเป็นประโยชน์ในระยะยาว หากขาดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน หรือขาดความโปร่งใสในกระบวนการจัดการ
บางที “กีฬา” ก็ไม่ใช่แค่การแข่งขันในสนาม แต่มันคือเวทีที่สะท้อนเป้าหมายทางการเมือง เศรษฐกิจ และจิตวิญญาณของประเทศนั้น ๆ อยู่ไม่น้อย คำถามจึงอาจไม่ใช่แค่ว่า “ทำไมถึงลงทุน?” แต่คือ “เราลงทุนเพื่อใคร?” มากกว่า
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- United Nations Office on Sport for Development and Peace (UNOSDP)
- IOC Legacy Strategic Approach
- “Mega-events and Urban Development” by Müller, M. (2015), Urban Studies