ไม่ต้องรอให้ภัยธรรมชาติมาถึงก่อน ถึงจะเริ่มเตรียมตัว
เคยคิดไหม... ทำไมคนส่วนใหญ่ “รู้” ว่าควรเตรียมตัว แต่กลับ “ไม่เคยทำ”?
หลายคนคิดว่า “บ้านเราไม่น่ามีปัญหาอะไร” หรือ “เดี๋ยวค่อยว่ากัน”
แต่ภัยธรรมชาติไม่เคยบอกล่วงหน้า ว่าจะมาตอนไหน จะหนักแค่ไหน หรือจะกระทบใครก่อน
สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ภัย แต่คือการไม่พร้อมรับมือครับ
ตัวอย่างสถานการณ์ที่เกิดจริง
- น้ำท่วมปี 54: หลายบ้านไม่เคยท่วมมาก่อน แต่น้ำมาก็แทบเอาชีวิตไม่รอด
- พายุโนรูปี 65: หลายคนติดถนนข้ามจังหวัด เพราะไม่รู้ว่าคืนนี้น้ำจะปิดทาง
- แผ่นดินไหวเชียงราย: ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดที่ไทย แต่ก็เกิด — และไม่มีสัญญาณเตือนชัดเจน
แล้วเราควรเริ่มยังไง?
1. จัดกระเป๋าฉุกเฉินให้ครบ
- ไฟฉาย (พร้อมถ่านสำรอง)
- Power Bank แบบชาร์จเร็ว
- น้ำดื่มขวดเล็ก 2–3 ขวด
- ขนมแห้งหรือของกินที่เก็บได้หลายวัน
- สมุดเบอร์ติดต่อสำคัญ (ไม่ใช่แค่เซฟในมือถือ)
- ถุงขยะ, ยา, หน้ากากอนามัย
ทำไว้เลย แล้ววางใกล้ประตูบ้านหรือท้ายรถ
2. ตั้งกลุ่มแจ้งข่าวกับคนใกล้ตัว
- ตั้งกลุ่ม LINE / Messenger กับครอบครัวเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย
- แชร์โลเคชันแบบเรียลไทม์เมื่อเดินทางในพื้นที่เสี่ยง
3. รู้เส้นทางหนีภัยล่วงหน้า
- ตรวจแผนที่ที่พักอาศัย: หนีออกทางไหนได้บ้าง?
- จุดรวมพลอยู่ตรงไหน? มีศูนย์อพยพใกล้บ้านหรือเปล่า?
4. ฝึกซ้อมในใจ (และกับคนในบ้าน)
- ถ้าไฟดับ? จะไปห้องน้ำได้ไหม?
- ถ้าน้ำไหลเข้าบ้าน? จะย้ายของขึ้นชั้นสองทันไหม?
- ถ้าต้องวิ่งออกจากบ้านกลางคืน? ใส่อะไร อุ้มใครก่อน?
อย่ารอให้เกิดเรื่อง ถึงค่อยเริ่มเตรียมตัว
ภัยธรรมชาติมาโดยไม่เลือกเวลา แต่การเตรียมตัวเริ่มได้ทุกวัน
“การไม่เตรียมอะไรเลย ไม่ใช่โชคดี แต่คือเสี่ยงโดยไม่จำเป็น”