“Fashion Tourism: เที่ยวแบบมีสไตล์ ช็อปแบบมีคลาส จากโซลถึงลอนดอน”

Fashion Tourism คืออะไร ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงอิน?

การท่องเที่ยวเชิงแฟชั่น (Fashion Tourism) ไม่ใช่แค่การเดินช็อปปิง แต่คือการเดินทางเพื่อซึมซับวัฒนธรรม สไตล์ และแรงบันดาลใจจากแฟชั่นในแต่ละเมืองทั่วโลก ตั้งแต่งานแฟชั่นวีกระดับโลก ไปจนถึงตลาดนัดดีไซเนอร์ท้องถิ่นที่มีเฉพาะในบางที่

เมืองใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องแฟชั่น ไม่ได้มีดีแค่รันเวย์ แต่ยังเต็มไปด้วยคาเฟ่สไตล์เท่ ๆ ย่านช็อปปิงสุดยูนีค และผู้คนที่แต่งตัวเหมือนเดินอยู่บนแคทวอล์กทุกวัน

จุดหมายสุดปังของสายแฟ(ชั่น)

1. Tokyo – ญี่ปุ่นสายดีไซน์เท่ที่ไม่ซ้ำใคร
ฮาราจูกุยังคงครองบัลลังก์แฟชั่นวัยรุ่น แต่มารุโนะอุจิและชิบูยุก็ไม่แพ้กัน ใครสายมินิมอลแวะไป Daikanyama ส่วนคนชอบแบรนด์ท้องถิ่นห้ามพลาด Beams, United Arrows และร้านเซเล็กชันอย่าง Dover Street Market Ginza

2. Seoul – เมืองแห่งสตรีตแฟชั่นที่ทุกคนแต่งตัวเหมือนออกจากซีรีส์
ฮงแดและคังนัมเป็นแหล่งรวมแฟชั่นนิสต้าตัวจริง ช็อปแบรนด์เกาหลีสุดเก๋อย่าง Ader Error, Stylenanda หรือ Gentle Monster พร้อมแวะคาเฟ่ถ่ายรูปแบบ K-Pop Idol ได้ทุกมุม

3. London – ต้นตำรับแฟชั่นผสมวินเทจที่เก๋าแบบมีคลาส
จากงาน London Fashion Week ไปจนถึงตลาด Camden Town และย่าน Shoreditch ลอนดอนคือความกล้าในการทดลอง ทั้งเสื้อผ้ามือสอง วินเทจ และแบรนด์หรูที่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว

เที่ยวแฟชั่นต้องรู้อะไรบ้าง?

• เช็คช่วง Fashion Week ของแต่ละเมืองล่วงหน้า (เช่น เดือนกุมภาพันธ์/กันยายนสำหรับลอนดอน)
• พก รองเท้าดี ๆ และกระเป๋าเล็กคล่องตัวไว้ลุยตลาดหรือย่านช็อปปิง
• ถ้าอยากประหยัด ให้ดูพวกร้าน Outlet, ตลาดวินเทจ หรือ Secondhand Boutique

แฟชั่นไม่ใช่แค่เรื่องของเสื้อผ้า แต่มันคือวิธีหนึ่งที่เราเลือกเล่าเรื่องของตัวเองผ่านการเดินทาง การได้ไปเยือนเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากสไตล์หลากหลาย จึงเป็นเหมือนการชาร์จพลังสร้างสรรค์ไปในตัว ใครยังไม่เคยเที่ยวแบบแฟชั่น ลองดูสักทริป แล้วอาจจะได้สไตล์ใหม่กลับมาทั้งใจและกระเป๋า

เครดิตแหล่งข้อมูล:

• UNWTO - Fashion Tourism
• Business of Fashion (BoF)
• Japan Travel – Fashion in Tokyo