ถ้าพูดถึง "รถ EV" หรือรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเมื่อไม่กี่ปีก่อน หลายคนยังมองว่าไกลตัว แต่ตอนนี้แค่เดินเข้าโชว์รูมก็เจอ EV วางเรียงรายเป็นทางเลือกแบบจริงจัง ไม่ใช่แค่รถทดลองหรือนำเข้าราคาสูงอีกต่อไป
1. ราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ EV มาแรง คือราคาที่ลดลงจากนโยบายสนับสนุนของรัฐ ทั้งการลดภาษีนำเข้าและการอุดหนุนราคาจากโครงการ EV 3.0 ทำให้แบรนด์จีนอย่าง BYD, GWM, และ NETA กลายเป็นชื่อคุ้นหูของคนไทยในเวลาอันรวดเร็ว
2. โครงสร้างพื้นฐานกำลังขยายตัว
สถานีชาร์จไฟฟ้า EV กำลังขยายจากในเมืองใหญ่ไปสู่หัวเมืองรอง และแม้จะยังไม่ครอบคลุมทุกเส้นทางเหมือนปั๊มน้ำมัน แต่แนวโน้มเป็นบวก ทั้งจากเอกชนที่แข่งขันลงทุน และรัฐที่วางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ทันยุคพลังงานสะอาด
3. ผู้บริโภคเริ่มเข้าใจข้อดีของ EV
จากเดิมที่กังวลเรื่องแบตเตอรี่และระยะทาง ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มเข้าใจว่า EV ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ และค่าบำรุงรักษาต่ำ บวกกับดีไซน์ที่ทันสมัยและเทคโนโลยีภายในรถที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
4. ความท้าทายยังคงมี
แม้จะมีแนวโน้มดี แต่การเปลี่ยนผ่านยังมีข้อจำกัด เช่น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ราคาขายต่อ และการเข้าถึงของกลุ่มรายได้น้อย ซึ่งรัฐและเอกชนยังต้องช่วยกันผลักดันอย่างต่อเนื่อง
รถ EV ในไทยไม่ใช่แค่ “เทรนด์” อีกต่อไป แต่คือ “ทางเลือก” ที่เริ่มกลายเป็น “ทางหลัก” แล้ว ลองเปิดใจดู อาจจะพบว่า EV คันแรกของคุณกำลังจอดรออยู่ที่โชว์รูมใกล้บ้าน
ข้อมูลอ้างอิงจาก:
- สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)
- สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT)
- ข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ผลิตรถ EV และประกาศจากกรมสรรพสามิต