จะดูแลพ่อแม่สูงวัยยังไงโดยไม่หมดแรง
การดูแลพ่อแม่เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุเป็นหน้าที่ที่เต็มไปด้วยความรัก...แต่มักมาพร้อมความเหนื่อยล้าโดยไม่รู้ตัว
บทความนี้ชวนคุณมาดูวิธี “ดูแลโดยไม่หมดแรง” เพื่อให้ทั้งพ่อแม่และลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีไปด้วยกัน
1. เข้าใจธรรมชาติของวัยสูงอายุ
- ร่างกาย: พ่อแม่อาจมีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน หรือข้อเสื่อม
- จิตใจ: ความเหงา ความวิตก หรือภาวะซึมเศร้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
- พฤติกรรม: ความจำอาจลดลง พูดซ้ำ ถามบ่อย เป็นเรื่องปกติ อย่าเก็บมาเครียด
“พ่อแม่ไม่ได้เปลี่ยนไป…แต่เขากำลังเดินเข้าสู่อีกช่วงของชีวิตที่ต้องการการปรับตัวมากขึ้น”
2. จัดระบบชีวิต – ไม่ใช่แบกไว้คนเดียว
- แบ่งหน้าที่ในครอบครัว: ใครพาไปหาหมอ ใครดูแลเรื่องกินยา หรือซื้อของ
- ใช้เทคโนโลยีช่วย: ตั้งแจ้งเตือนกินยา ใช้กล้องดูความเคลื่อนไหวผ่านมือถือ
- หาผู้ช่วย: บางครั้งการจ้างผู้ดูแลรายวันหรือชั่วคราวช่วยให้คุณได้พัก
3. รักษาพลังใจของตัวเอง
- อย่าโทษตัวเอง ว่าเราทำไม่พอ ทุกคนมีลิมิต
- อย่าทิ้งชีวิตส่วนตัว: หาเวลาทำสิ่งที่ชอบ พักผ่อน หรือพบเพื่อนบ้าง
- หากดันไม่ไหวจริง ๆ: ปรึกษาจิตแพทย์หรือเข้ากลุ่มผู้ดูแลผู้สูงอายุ
4. ใช้สิทธิให้เป็น – มีเงินช่วย มีคนช่วย
สิทธิที่ควรรู้:
สิทธิ | ใครมีสิทธิ | ได้อะไร | สมัครยังไง |
---|---|---|---|
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ | อายุ 60 ปีขึ้นไป | 600–1,000 บาท/เดือน | สมัครที่ อบต. หรือเขต |
สิทธิประกันสุขภาพ 30 บาท / บัตรทอง / ข้าราชการ / ประกันสังคม | ขึ้นกับสถานะ | ค่ารักษาฟรีหรือเบิกได้ | ไม่ต้องสมัครใหม่ |
สิทธิลดหย่อนภาษีจากการดูแลพ่อแม่ | ผู้มีรายได้ที่ดูแลพ่อแม่อายุ 60+ | ลดหย่อนได้ 30,000 บาทต่อคน | ยื่นตอนทำภาษี |
บริการเยี่ยมบ้าน / พยาบาลชุมชน | ผู้ป่วยติดบ้าน-ติดเตียง | เจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำถึงบ้าน | แจ้งผ่าน รพ.สต. หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน |
การดูแลพ่อแม่ไม่ใช่เรื่องของความเสียสละจนหมดตัวหมดใจ
แต่เป็น “การจัดการชีวิตให้บาลานซ์”
เราไม่ต้องเก่งทุกเรื่อง…แค่ไม่ลืมว่า เราควรดูแลตัวเองก่อน ถึงจะดูแลพ่อแม่ได้ดี
“การดูแลที่ดี ไม่ได้มาจากความเหนื่อย แต่เริ่มจากหัวใจที่ไม่รู้สึกถูกทิ้งไว้คนเดียว”