"เคนโด้" พาผู้เสียหาย K4 ร้อง ปปง. ตามอายัดทรัพย์ แจงร้องหลายหน่วยงานคดีไม่คืบ
เผยแพร่ : 21 ก.พ. 2568 13:02:09
• เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกหลอกลงทุนในบริษัท K4
• ขอให้ ปปง. ยึดอายัดทรัพย์สินของบริษัท K4
• มีการกล่าวอ้างว่ามีบุคคลมีชื่อเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท

MGR Online - "เดนโด้" พร้อมผู้เสียหาย ยื่นเรื่อง ปปง. ยึดอายัดทรัพย์ หลังถูกหลอกลงทุนบริษัท K4 เสียหายกว่า 50 ล้านบาท ชี้มีคนดังมาเอี่ยวสร้างความน่าเชื่อถือ
วันนี้ (21 ก.พ.) เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ "เคนโด้ช่วยด้วย" พร้อมด้วย นายชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด เดินทางเข้าพบ นายวิทยาพร จันทวาส ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสืบสวนสอบสวนทางการเงิน และในฐานะรองโฆษก ปปง. เพื่อขอให้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์บริษัท K4 ที่ชักชวนลงทุนธุรกิจตู้เติมเงิน หลังเคยร้องเรียนหลายหน่วยงานแต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยมีตัวแทนผู้เสียหายประมาณ 30 คน เข้าร่วมรับฟัง
นายเกรียงไกรมาศ เปิดเผยว่า บริษัท K4 ได้มีการไปขออนุญาตนำ licence จาก กสทช. ไปใช้ ซึ่งตามกฎหมาย กสทช. ไม่สามารถนำ licence ไปใช้ในธุรกิจขายตรงได้แต่บริษัทดังกล่าวมีการฝืนกฎ นำซิม K4 ไปทำเป็นแพ็คเกจคล้ายกับขายตรง มีการใช้แผนระดมทุนและอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยอ้างว่าจะได้เงินกำไร 300% และอ้างว่าบริษัทจะเติบโตเท่ากับค่ายมือถือดังสองค่าย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ
นายเกรียงไกรมาศ เผยว่า วันนี้ตนและผู้เสียหายเดินทางมาที่สำนักงาน ปปง. เพราะก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปที่ กสทช. แล้วแต่ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ทั้งๆ ที่บริษัทดังกล่าวมีการนำโลโก้ กสทช. ไปใช้โฆษณาอ้างว่าเป็นพาร์ทเนอร์กัน ทาง กสทช. ก็ทราบอยู่แล้วแต่ก็ไม่ดำเนินการอะไร และไม่สามารถยึด licence กลับคืนได้ จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีเทวดาคอยช่วยเหลือบริษัทอยู่หรือไม่
นายเกรียงไกรมาศ เผยอีกว่า ผู้เสียหายมีการรวมตัวกันประมาณ 100 คน เข้าแจ้งความแล้ว ซึ่งมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท ตำรวจก็ได้มีการตั้งข้อหาตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้กับบริษัท ซึ่งประกอบด้วยเจ้าของและกรรมการ ได้แก่ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่)“ ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาพบแต่อย่างใด และทางบริษัทดังกล่าวก็ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ตามปกติ
"ผมขอเปิดชื่อคนดังที่คาดว่าจะมีเอี่ยวกับกรณีนี้ด้วยหรือไม่ คนแรกคือ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์มรัฐภูมิ ที่ทางบริษัทได้มีการนำภาพมาแอบอ้าง ทำให้หลายคนหลงเชื่อลงทุน ผมไม่ได้จะปรักปรำ และคิดว่า ฟิล์ม เองก็คงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวอะไร จึงอยากให้ทาง ฟิล์ม ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และออกมาแจ้งความเอาผิดบริษัทเพราะนำภาพไปใช้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการนำภาพนักการเมืองทั้งพรรคแดงและส้ม มาแอบอ้างอีกด้วย จึงอยากให้นักการเมืองดังกล่าวออกมาชี้แจงด้วย"
ด้าน นายวิทยาพร กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งเรื่องมาให้ ปปง. พิจารณาดำเนินการตามกฏหมาย ปปง. แล้ว ซึ่งจะนำเสนอต่อคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สิน หากพบว่ากรณีดังกล่าวมีทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ปปง. ก็จะพิจารณาเรื่องของการยึดอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ จากนั้นก็จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ผู้เสียหายเข้ามายื่นคำร้องภายใน 90 วัน หลังจากนั้นก็จะส่งเรื่องให้ทางพนักงานอัยการยื่นคำร้องเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายต่อไป หากผู้เสียหายมีเอกสารหรือพยานหลักฐานใดที่จะส่งให้ ปปง. ก็สามารถส่งมาได้ อาจจะเป็นข้อมูลทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลในการรวบรวมพยานหลักฐาน จะทำให้สามารถพิจารณาได้รวดเร็วขึ้น
ขณะที่ นายชัยเมศร์ ระบุว่า หลังจากที่มีผู้เข้ามาร้องทุกข์กับทางคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด ทางเราจึงได้มีการเรียกหน่วยงาน สคบ. กสทช. และ บก.ปอศ. เข้ามาหารือและเร่งรัดติดตามคดีนี้ จากนั้นทาง บก.ปอศ. จึงมีการส่งเรื่องมาทาง ปปง. ให้ตรวจสอบเพื่อทำการอายัดทรัพย์ไว้ก่อน ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าก็จะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงกับเราว่า มีการดำเนินการไปถึงไหนอย่างไรบ้าง ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องนี้ และขอให้ประชาชนมั่นใจในกระบวนการที่จะดำเนินการต่อไป
ที่มา : MgrOnline