“อังคณา” ถอนญัตติ “แม้ว” ป่วยทิพย์ รอยื่นใหม่สมัยหน้า อ้างข้อมูลไม่เพียงพอขอศึกษาให้รอบคอบ กลัวถูกฟ้อง

เผยแพร่ : 18 ก.พ. 2568 11:27:21
X
• คาดว่าจะยื่นญัตติใหม่ในสมัยประชุมหน้า
• อ้างเหตุผลการถอนญัตติเพื่อความรอบคอบ ไม่ได้กลัวการถูกฟ้องร้อง
• เรียกร้องให้ นายทักษิณ และกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงข้อเท็จจริง

“อังคณา” ถอนญัตติป่วยทิพย์ชั้น 14 อ้างข้อมูลยังไม่เพียงพอ-ต้องศึกษาต่อ คาด ยื่นใหม่สมัยประชุมมหน้า อ้างไม่ได้กลัวถูกฟ้อง แต่ต้องรอบคอบ เพราะคนที่แตะเรื่องนี้ถูกโต้กลับทุกครั้ง จี้ “ทักษิณ-ยธ.” แจงให้กระจ่าง

วันนี้ (18 ก.พ.) นางอังคณา นีละไพจิตร สว.กล่าวว่า ตนได้ถอนญัตติ เรื่องขอให้วุฒิสภาพิจารณาหาแนวทางปฏิบัติในการให้สิทธิแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกันแล้ว เนื่องจากข้อมูลตอนนี้ยังไม่เพียงพอ ขาดข้อมูลด้านการแพทย์ เมื่อขอข้อมูลแล้วถูกอ้างเป็นสิทธิของผู้ป่วย ประกอบกับเวลามีใครมาพูดหรือสงสัยในเรื่องนี้ ก็มักจะถูกตอบโต้กลับ จึงมองว่าควรจะมีข้อมูลที่เพียงพอมากกว่านี้ อีกทั้งมีหลายคนติงว่า เรื่องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงต้องดูว่าข้อกฎหมายตัดอำนาจ สว.ในการอภิปรายเรื่องนี้หรือไม่
“ยืนยันว่า ไม่ได้กลัวเรื่องการถูกฟ้องร้อง เพราะดิฉันทำงานด้านสิทธิมนุษยชนมาตลอด และตอนนี้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก เราจึงให้ความเห็นเรื่องนี้ในทางวิชาการ ไม่ได้โจมตีบุคคล จึงคิดว่าไม่ควรนำมาซึ่งการถูกฟ้องร้อง เพราะความเห็นในเชิงวิชาการ ควรได้รับความเคารพ” นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวต่อว่า จุดยืนของเรื่องนี้เห็นตรงกันกับรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ระบุว่ การที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นอนอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ 181 วัน โดยที่ไม่มีการย้ายเข้าออก จึงสงสัยว่า อาการไม่ดีขึ้นเลยหรือ และมองว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และที่ผ่านมาเราพยายามหาข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่มักจะถูกอ้างว่าเป็นข้อมูลของผู้ป่วย ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ตนมองว่าผู้ที่ถูกตั้งข้อสงสัยควรจะสละสิทธิ์นี้ เพื่อเปิดเผยข้อมูลให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เพราะเรื่องนี้สาธารณะคลางแคลงใจมาก

”เราก็งงอยู่ว่า 180 วัน รักษาโดยที่ไม่ได้ออกมาเลยหรือ และพอออกมาแล้ว ก็ดูไม่เหมือนผู้ที่เคยป่วยวิกฤตมาก่อน จึงเป็นคำถามว่า หากเป็นกรณีผู้ป่วยรายอื่น จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกันแบบนี้หรือไม่” นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวด้วยว่า จุดยืนและเป้าหมายที่เสนอญัตตินี้ เพราะมองว่าผู้ป่วยทุกคนควรได้รับสิทธิในการรักษาอย่างเท่าเทียมกัน ควรเปิดโอกาสให้ไปคุมขังที่อื่น ที่ไม่ใช่เรือนจำ เช่น กรณีของ “บุ้ง เนติพร” ที่ควรได้รับการรักษาใกล้ชิดกับแพทย์เฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม น่าจะกลับมายื่นญัตติดังกล่าวได้อีกครั้งในสมัยประชุมหน้า

เมื่อถามว่า คาดหวังการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการเคลียร์ประเด็นดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน นางอังคณา กล่าวว่า ก็ต้องมั่นใจ เพราะ กสม. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์กรอิสระได้ตรวจสอบแล้ว และต้องดูว่า ป.ป.ช. สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นข้อมูลส่วนตัวได้มากน้อยแค่ไหน และต้องดูว่า ป.ป.ช.มีอำนาจเรียกข้อมูลได้มากกว่า กสม.หรือไม่

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะสามารถไขข้อสงสัย หรือสุดท้ายจะเงียบไป นางอังคณา กล่าวว่า ปัญหาคือเวลาที่สังคม หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ก็จะถูกตอบโต้ อย่างคราวที่แล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาพูดเรื่องนี้ ก็ถูกพูดลอยๆ ว่า ประเทศไทยไม่มีพลตำรวจเอกหญิง ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย และสุดท้ายยังคงมีความคลุมเครือ ซึ่งส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้กระทรวงยุติธรรม และนายทักษิณ ควรออกมาชี้แจง เพื่อให้เป็นมาตรฐานคุ้มครองคนทุกคนอย่างเท่าเทียม

ที่มา : MgrOnline