CPAXT โชว์กำไรปี 67 โต 23% ค้าส่ง-ค้าปลีกหนุน -โบรกฯ แนะนำซื้อให้เป้า 33 บ.
เผยแพร่ : 19 ก.พ. 2568 20:11:30
• รายได้รวมปี 67 อยู่ที่ 512,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,000 ล้านบาท
• ยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกเติบโตดี
• ช่องทาง Omni Channel เติบโตแข็งแกร่ง เกินเป้าหมาย

CPAXT เผย งบปี67 มีกำไรสุทธิ 10,837 ลบ. โต 23.5% ส่วนรายได้รวมทำได้ 5.12 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 2.2 หมื่นลบ. จากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจค้าส่ง และค้าปลีกสดใส ขณะที่การขาย Omni Channel โตแข็งแกร่ง สูงกว่าเป้าจากสัดส่วน 18% และประกาศจ่ายปันผล 0.53 บาท/หุ้น - XD 8 เม.ย.68 ส่วนปี68 ตั้งเป้าสร้างการเติบโตทุกช่องทางจำหน่าย ทั้งการขยายสาขา และการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) และการเพิ่มยอดขาย Omni Channel ด้านโบรกฯ ยังแนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้า 31-33 บาท
นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานบริษัทปี 67 บริษัททำกำไรสุทธิ 10,837 ล้านบาท (หลังจากปรับปรุงรายการ) เพิ่มขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับปี 66 โดยมีรายได้รวม 512,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22,093 ล้านบาท จากการเติบโตของยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นของทั้งกลุ่มธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยเฉพาะจากกลุ่มสินค้าอาหารสด
นอกจากนี้การขาย Omni Channel ของบริษัทฯ ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยมีสัดส่วนรายได้ถึง 18% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด มาจากการที่บริษัทเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม พร้อมการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีค้าปลีก (Retail Tech)
ปี 68 หวังเติบโตทุกช่องทางการจำหน่าย
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา สะท้อนศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและความสามารถในการขยายตัวในทุกมิติ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายและกำไรต่อเนื่อง ในปี 68 ผ่านกลยุทธ์หลัก ได้แก่การสร้างการเติบโตทุกช่องทางจำหน่าย ผ่านการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของยอดขายในสาขาเดิม (SSSG) และการเพิ่มยอดขาย Omni Channel ทั้งการขายผ่านแพลตฟอร์มและทีมขายนอกร้าน โดยบริษัทฯ เดินหน้าขยายพื้นที่ให้บริการ จากการใช้จุดแข็งของเครือข่ายสาขาทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกกว่า 2,600 แห่งทั่วประเทศ
ขณะที่การเป็นผู้นำสินค้าอาหารสดของไทย ด้วยความหลากหลายของสินค้าอาหารสดกว่า 7,000 รายการ จากทั้งในประเทศและแหล่งผลิตชั้นนำทั่วทุกมุมโลก ผ่านการผนึกกำลังสรรหาสินค้าที่มีความหลากหลาย พร้อมต่อยอดอาหารพร้อมปรุง-พร้อมทาน (RTC-RTE) เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้ประกอบการในราคาที่คุ้มค่าการเพิ่มกำไรจากสินค้า Private label และกลุ่มสินค้าที่สร้างผลกำไรดี โดยบริษัทฯ มุ่งต่อยอดสินค้าExclusive brand ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโครและโลตัสเท่านั้น (ONLY AT Makro & Lotus's) เพื่อเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งในตลาด
นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำไรขั้นต้นสูงการเพิ่มรายได้จากพื้นที่ศูนย์การค้าและการพัฒนามอลล์ สู่ SMART Community Center ด้วยการปรับรูปลักษณ์มอลล์ให้ทันสมัย ควบคู่การหาผู้เช่าที่สอดคล้องกับความต้องการและวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละพื้นที่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI เพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง จึงสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจ พร้อมทั้งใช้ AI ในการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุน
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 68 เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 67 ในอัตรารวม 0.71 บาทต่อหุ้น เมื่อหักการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้นที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปแล้ว คงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตรา 0.53 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 8 เม.ย. 68 วันที่จ่ายปันผล 24 เม.ย. 68
โบรกฯ แนะนำซื้อ ให้ราคาพพื้นฐาน 31-33 บาท
บทวิเคราะห์ จาก บล.พาย ประเมินว่า รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 4 พันล้านบาท (+21%YoY, +103%QoQ) ใกลเคียงกับที่บริษัท และ BB consensus คาด กำไรเติบโต YoY เป็นผลจากยอดขายที่โต 4%YoY หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว 70 bps YoY จากการขายอาหารสดและการเพิ่มสัดส่วน Private label รวมถึงการลดการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ แม้ว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเติบโตของ Omni Channel ทำให้ทั้งปี2024 มีกำไรสุทธิแตะ 1 หมื่นล้านบาท (+22%YoY)
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่มูลค่าพื้นฐาน 33.00 บาท โดยแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงเดือน ม.ค. 2025 ของทั้ง Makro และ Lotus’s ที่สดใสต่อเนื่องระดับ +3% ถึง +6% จากยอดขายอาหารสดที่โตดีต่อเนื่อง
ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุว่า ยอดขายใน 4Q67 ที่ 127,441 ลบ. +7.2%q-q, +4.1% y-y มี GPM 14.9% กำไรสุทธิอยู่ที่ 3,960 ลบ. +102.9%q-q, +20.7% y-y ยอดขายรวมปี 67 ที่ 488,862 ลบ. +4.8% และมี SSSG ของธุรกิจค้าส่งที่ 2.8% และค้าปลีกที่ 3.6% ส่วน GPM รวมอยู่ที่ 14.4% เพิ่ม 60 bps มีกำไรสุทธิที่ 10,569 ลบ. +22.3% บริษัทขยายสาขาทั้ง Makro และ Lotus's เพิ่มขึ้น 7 และ 31 สาขา แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาพื้นฐาน : 31.00 บาท
ที่มา : MgrOnline