(คลิป)@ยโสธร หนึ่งเดียวในไทย ชาวนาใช้ลานสนามบินตากข้าวเปลือก
เผยแพร่ : 20 พ.ย. 2567 12:28:04
• เพื่อไล่ความชื้นแทนการตากบนถนนซึ่งกีดขวางการจราจรและอันตราย
• การตากข้าวบนถนนเสี่ยงต่อการถูกหักค่าความชื้นหากข้าวไม่แห้งพอเมื่อนำไปขาย
• วิธีการนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของยโสธร (มีที่เดียวในโลก)
ยโสธร - มีที่เดียวในโลก ชาวนาที่จังหวัดยโสธรใช้ลานจอดและรันเวย์ของสนามบินเป็นสถานที่ตากข้าวเปลือกไล่ความชื้น แทนการนำข้าวไปตากตามถนนกีดขวางการสัญจรและเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เผยถ้าข้าวเปลือกไม่แห้งขนไปขายถูกหักค่าความชื้น สูญเสียรายได้ไม่น้อย
ในช่วงนี้เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวของชาวนา มีชาวนาในหลายพื้นที่หลายจังหวัดที่เกี่ยวข้าวแล้วเสร็จและมีการนำข้าวเปลือกไปตากแดดตามถนน จนสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนกีดขวางการจราจรปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน รวมทั้งเกิดเหตุการณ์ลักขโมยข้าวเปลือกที่ตากเอาไว้นั้น ดังนั้นในพื้นที่จังหวัดยโสธรจึงได้มีชาวนาจำนวนไม่น้อยที่กำลังพากันเร่งเก็บเกี่ยวข้าวก็ต่างหาสถานที่ที่ปลอดภัยในการนำข้าวเปลือกของตนไปตากแดดไล่ความชื้นก่อนจะนำไปขายเพื่อให้ได้ราคาที่สูงและไม่ถูกหักค่าความชื้น
โดยเฉพาะชาวนาในพื้นที่ตำบลโคกสำราญ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร และอีกหลายตำบลใกล้เคียงกันต่างพากันนำข้าวเปลือกของตนที่เก็บเกี่ยวเสร็จไปตากแดดเอาไว้ที่บริเวณลาดจอดเครื่องบินและรันเวย์ภายในสนามบินกองทัพบก อำเภอเลิงนกทา ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่ตำบลโคกสำราญ ซึ่งเป็นสนามบินเก่าที่มีการก่อสร้างมาตั้งปี พ.ศ. 2506 สมัยสงครามเวียดนาม โดยทหารสหรัฐอเมริการ่วมกับพันธมิตรอังกฤษ, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ร่วมกันก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามบินสำรองให้กับเครื่องบินที่ถูกยิงขัดข้องได้ลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุด แต่ได้เลิกใช้งานไปแล้วและกองทัพบกเป็นผู้ดูแล
ปัจจุบันลานจอดเครื่องบินและรันเวย์ยังคงอยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ ชาวนาที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงจึงได้ขออนุญาตหน่วยทหารที่ดูแลและนำข้าวเปลือกของตนไปตากแดดไล่ความชื้นก่อนจะนำไปขาย แทนการนำข้าวเปลือกไปตากเอาไว้ตามถนนเหมือนพื้นที่อื่นเพื่อความปลอดภัยของตัวชาวนาเองและผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ในแต่ละวันก็จะมีชาวนาพากันนำข้าวไปตากที่สนามบินแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าวันละ 100 ราย สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ และจะใช้ระยะเวลาตากข้าวคนละประมาณ 2 วัน ก็จะพากันขนย้ายข้าวเปลือกที่แห้งสนิทกลับบ้านไปและส่งขายเป็นรายได้บางส่วน แต่ในช่วงกลางคืนชาวนาก็จะไปนอนเฝ้าข้าวของตนที่ตากเอาไว้ทุกคืนเพื่อป้องกันมิจฉาชีพเข้าไปลักขโมยข้าวเปลือกที่ตากเอาไว้
ที่มา : MgrOnline