กสิกรฯ แชมป์กอง ThaiESG จ่อออกกองผสมช่วยกระจายเสี่ยง

เผยแพร่ : 18 พ.ย. 2567 08:18:49
X
• เตรียมออกกองทุนผสมใหม่ ช่วยกระจายความเสี่ยง
• มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการลงทุนส่งท้ายปี

บลจ.กสิกรไทยครองแชมป์อันดับ 1 ในกลุ่มกองทุน ThaiESG ทั้งตลาดกวาด AUM รวมกว่า 2,694.34 ล้านบาท จ่อออกกองผสมช่วยกระจายเสี่ยงพร้อมชวนลงทุนรับโปรโมชันพิเศษส่งท้ายปี 

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต, CFA, Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุน ThaiESG ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมกว่า 2,694.34 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 23% จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทั้งหมด 16 บริษัทในตลาด  

นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อไปว่า สำหรับกองทุน ThaiESG ของ บลจ.กสิกรไทย ปัจจุบันมีให้เลือก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุน K-TNZ-ThaiESG เป็นกองทุนแรกของไทยที่มีเป้าหมายสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยกองทุนมีกลยุทธ์ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีส่วนช่วยและสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการแบบเชิงรับ (Passive Management) เพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัด SET100 TRI ส่งผลให้พอร์ตลงทุนมีค่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่ต่ำกว่าดัชนี SET100 

ทั้งนี้ กองทุน K-TNZ-ThaiESG มี AUM เป็นมูลค่า 2,075.19 ล้านบาท มีขนาดกองทุนใหญ่ที่สุด และเป็นกองทุน ThaiESG ที่ลงทุนในหุ้นที่สร้างผลตอบแทนได้สูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี (YTD), 3เดือน และ 6 เดือน อยู่ที่ 7.72%, 13.31% และ 10.87% ตามลำดับ ใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัด ซึ่งอยู่ที่ 8.48%, 13.57% และ 11.21% ตามลำดับ (ข้อมูล Morningstar ณ วันที่ 31 ต.ค. 67)

ในขณะที่กองทุน K-ESGSI-ThaiESG ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุน ESG และมีความเสี่ยงต่ำ ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเช่นกัน โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐของไทยในกลุ่มความยั่งยืนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% โดยสามารถลงทุนในตราสารดังต่อไปนี้

1) ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน ได้แก่ ตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ตราสารเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) และตราสารส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability - Linked Bond) 2) ตราสารหนี้ภาครัฐของไทย ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรหรือหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย และ 3) ลงทุนบางส่วนในตราสารหนี้ เงินฝาก และตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผู้ระดมทุนมีทั้งที่เป็นภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน โดยมุ่งนำเงินไปใช้ในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเกิดประโยชน์ต่อสังคมไทย

ทั้งนี้ กองทุน K-ESGSI-ThaiESG มี AUM เป็นมูลค่า 619.15 ล้านบาท มีขนาดกองทุนใหญ่เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มกองทุน ThaiESG ตราสารหนี้ และมีผลการดำเนินนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) และ 3 เดือน อยู่ที่ 2.88% และ 1.54% ในขณะที่ดัชนีชี้วัด อยู่ที่ 3.29% และ 1.99% ตามลำดับ (ข้อมูล Morningstar ณ วันที่ 31 ต.ค. 67)

ทั้งนี้ เพื่อให้ บลจ.กสิกรไทยสามารถตอบโจทย์การลงทุนได้ครบทุกระดับความเสี่ยง จึงได้เตรียมเปิดเสนอขายกองทุน ThaiESG กองทุนใหม่ในรูปแบบกองทุนผสมที่ลงทุนทั้งในหุ้นและตราสารหนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง และลงทุนหลากหลายประเภทสินทรัพย์เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้ในทุกสภาวะตลาด โดยคาดว่าจะเปิดเสนอขายในเร็วๆ นี้

“การสนับสนุนจากภาครัฐในการจัดตั้งกองทุน ThaiESG มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างจุดเปลี่ยนตลาดหุ้นไทยผ่านแนวทางการลงทุนที่เน้นการพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้บริษัทในตลาดหุ้นไทยต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับความคาดหวังด้าน ESG ดังนั้น กองทุน ThaiESG จึงไม่เพียงแต่ส่งเสริมการลงทุนให้มีความยั่งยืน แต่ยังเป็นแรงผลักดันที่สำคัญให้ตลาดหุ้นไทยมีการยกระดับและพัฒนาในระยะยาว” นางสาวธิดาศิริกล่าว

นางสาวธิดาศิริกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-TNZ-ThaiESG และ K-ESGSI-ThaiESG สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท พร้อมรับโปรโมชันพิเศษเมื่อลงทุนแบบ DCA ผ่านบริการ K-Saving Plan และ/หรือ DCA ผ่านแอป K-My Funds ในกลุ่มกองทุน ThaiESG/SSF/RMF กสิกรไทย รับ Fund Back สูงสุด 1,200 บาท โปรโมชันเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567-30 ธันวาคม 2567

ที่มา : MgrOnline