“จิรายุ” ย้ำ นายกฯ ทำหน้าที่ผู้นำประเทศเต็มที่ ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก หวังดึงเม็ดเงินลงทุนในไทย ชู soft power สู่สายตาชาวโลก ปลื้มผู้บริหารสมาคมภาพยนตร์สหรัฐฯ ขานรับถ่ายทำหนัง คาดปีหน้ามูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท ด้านธุรกิจดิจิทัล ต่างสนใจลงทุนไทย
วันที่ 16 พ.ย. 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเสียงจากใจไทยคู่ฟ้า ว่า ในระหว่างที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปก เดินทางมาพร้อม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจะพูดคุยหารือดึงนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทย โดยก่อนนายกรัฐมนตรี เดินทางได้มีการตรวจระบบการใช้งานพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวผู้ที่เดินทางเข้าออกและประชุมที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้อำนวยการท่าอากาศยานไทย ได้รายงานในการทำงานทั้งระบบ ซึ่งมีข่าวดีที่ยูเนสโกได้จัดอันดับให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็น 1 ใน 6 สนามบินที่สวยที่สุดในโลกประจำปี 2567
ขณะที่ในการร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปก นายกรัฐมนตรี ได้หารือและมอบนโยบายให้กับทีมไทยแลนด์และคณะเอกอัครทูตไทย ที่สหรัฐอเมริกา ย้ำนโยบายผลักดัน soft power ของไทยสู่สายตาชาวโลก พร้อมกับสั่งเร่งกระตุ้นการส่งเสริมนักลงทุน ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศพร้อมกับพบปะชุมชนคนไทยใน ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ได้รับการต้อนรับจากคนไทยจำนวนมากอย่างประทับใจโดยทุกคนดีใจที่ นายกฯ แพทองธาร ให้ความสำคัญและจะดูแลช่วยเหลือคนไทยในสหรัฐอเมริกาด้วย
จากนั้น นายกฯ เดินทางต่อมาที่ประเทศเปรู เพื่อเข้าร่วมประชุมเอเปก พูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงของ hp, google, tiktok, microsoft รวมถึงผู้บริหารสมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ เพื่อหารือและนำเสนอสิทธิประโยชน์กับภาคเอกชนที่จะมาลงทุนในประเทศไทย เป็นการดึงดูดเม็ดเงินเข้ามาลงทุนมากยิ่งขึ้น เช่น 7 กองถ่ายภาพยนตร์สหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาใช้พื้นที่ประเทศไทยถ่ายทำภาพยนตร์สามารถที่จะได้เงินคืน 30% เพื่อจูงใจผู้ผลิตภาพยนตร์ โดยคาดว่า ปีหน้าจะมีผู้สนใจขานรับนโยบายเข้ามาสร้างภาพยนตร์ในไทย รวมมูลค่าลงทุนร่วมหมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านมากว่า 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการลงทุนเรื่องพลังงานสะอาด มีการ up skill reskill เรื่องการทำงานด้านเทคโนโลยี AI เป็นการให้ความรู้และพัฒนากับมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย
โดยนายกรัฐมนตรีได้พบกับประธานาธิบดีเปรู ซึ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์รอบด้านโดยทางเปรู มั่นใจว่า FTA ให้สำเร็จในปีหน้าโดยนายกเชิญชวนให้เปรูมาลงทุนโครงการ แลนด์บริดจ์ ในประเทศไทย ซึ่งสามารถที่จะเดินทางผ่านจากไทยไปเปรู ละตินอเมริกา ได้ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการทำหน้าที่ของผู้นำประเทศไทยอย่างเต็มที่