สารพัดคดี (เอี่ยว) “ฟิล์ม รัฐภูมิ” รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน! (คลิป)

เผยแพร่ : 21 ก.พ. 2568 21:02:27
X
• เขาสามารถเอาตัวรอดจากคดีเหล่านั้นได้เกือบทั้งหมด
• มีเพียงคดีเดียวที่เขาต้องจ่ายค่าปรับและเกือบติดคุก
• ข่าวนี้รายงานถึงความสามารถในการเอาตัวรอดจากคดีความของเขา โดยใช้คำเปรียบเทียบว่า "ดวงแข็งยิ่งกว่าแมว 9 ชีวิต"

เรียกว่าเป็นคนดวงแข็งยิ่งกว่าแมว 9 ชีวิต สำหรับอดีตซุป'ตาร์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์”ที่ไม่ว่าจะถูกฟ้อง หรือถูกโยงไปเอี่ยวกับคดีไหน ก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง มีเพียงคดีเดียวเท่านั้นที่เฉียดคุกและต้องจ่ายค่าปรับ ล่าสุดวันนี้ (21 ก.พ. 68) ทางทีมข่าว ก็เลยขอรวบรวมคดีต่างๆ ที่มีชื่อของเจ้าตัวเข้าเกี่ยวข้องให้ดูกัน ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกัน ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท


เริ่มจากธุรกิจแอป Pay All ซึ่งเป็นคดีเดียวที่เกือบต้องเข้าซังเต โดยถูกแจ้งข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยศาลได้ตัดสินจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท แต่งานนี้เจ้าตัวได้รับสารภาพ จึงได้ลดโทษปรับเหลือ 5 หมื่นบาท และรอลงอาญา 2 ปี

ต่อมาฟิล์มได้ผันตัวเป็นนักเทรดตัวยง และได้ร่วมธุรกิจปั้นเกมออนไลน์กับ “อภิรักษ์ โกฎธิ” CEO Forex-3Dซึ่งเมื่ออภิรักษ์ถูกจับ และโดนตรวจสอบเส้นทางการเงิน ก็พบว่ามีชื่อของฟิล์มเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แต่ฟิล์มเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน ฐานฟอกเงิน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในขบวนการ Forex-3D เพราะมีหลักฐานการทำงานร่วมกับอภิรักษ์ชัดเจน จึงรอดไป

ก่อนเมื่อปีที่แล้วกับข่าวใหญ่ “ดิไอคอนกรุ๊ป” จะถูก “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”ฟ้องหมิ่นประมาท จากกรณีคลิปเสียงเรียกเงิน 20 ล้าน จาก “บอสปัน” ดิไอคอน เพื่อพา “บอสพอล” มาเคลียร์ตัวเองผ่านรายการโหนกระแส ซึ่งงานนี้เจ้าตัวได้ถูกออกหมายเรียก ในความผิดฐานพยายามฉ้อโกง ตบทรัพย์ “บอสดิไอคอน” ด้วย แต่หลังเข้ามาให้ปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ฟิล์มก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ยืนยันปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา ไม่ว่าจะเป็นพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท หนุ่ม กรรชัย

และจากประเด็นนี้ “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ”ประธานชมรมสันติประชาธรรม ก็ได้ออกมาแฉเพิ่ม อ้างว่าฟิล์มไม่ได้ตบทรัพย์แค่ 20 ล้าน เพราะมีผู้เสียหายจากจังหวัดตรัง ได้ติดต่อประสานงานมา ว่าถูกฟิล์มและพี่ชาย ชักชวนให้ลงทุนที่ประเทศดูไบ ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับคดี Forex โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท

จากนั้นหนุ่มอี้ก็ยังเดินหน้าต่อ โดยเมื่อ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา ให้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ขยายผลคดีของฟิล์มและพวกทั้งหมด 7 เรื่องด้วยกัน เนื่องจากชมรมสันติประชาธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายเกี่ยวกับการกระทำของฟิล์ม และกรณีธุรกิจที่เกี่ยวกับพี่ชายของฟิล์ม อย่าง นายภูริทัต โตคงทรัพย์ และธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยกรณีที่ 1 คือคดีดิไอคอน ที่มีผู้เสียหายประสานมายังตน เพื่อขอให้เร่งรัดติดตามคดีให้ส่งฟ้อง หลังพบว่า “ทนายประมาณ เลืองวัฒนวณิช” ทนายความของนายฟิล์ม ให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่อาจจะชี้นำให้ประชาชนเข้าใจผิด และอาจจะเป็นการแก้ต่างนอกศาล ซึ่งทำให้ผู้เสียหายไม่สบายใจ ที่ทนายความให้ความเห็นชี้นำสังคม ในลักษณะเหมือนตัดสินคดีแทนศาล ทั้งที่คดีหลักได้เข้าสู่กระบวนพิจารณาคดีของศาลแล้ว ซึ่งอาจเข้าข่ายประพฤติผิดมรรยาททนายความหรือไม่

กรณีที่ 2 เป็นกรณีผู้เสียหายในคดีที่ตนเคยพาผู้เสียหายไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นคดีที่ถูกชักชวนลงทุนเกี่ยวข้องกับบริษัทหนึ่งซึ่งมีการกระทำที่สามารถเชื่อมโยง ไปถึงบุคคลที่มีลักษณะในการชักชวนให้มีการลงทุน ซึ่งมีพฤติกรรมเหมือนกับกรณีผู้ชักชวนให้ลงทุนเหมือนของดิไอคอน



กรณีที่ 3 (กรณีเดิมที่ออกมาแฉต่อจากเรื่องตบทรัพย์ 20 ล้าน) ตนได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหาย ซึ่งมีการชวนลงทุนที่จังหวัดตรัง ให้เปิดโบรกเกอร์ ฟอเร็กซ์ ที่ดูไบ ซึ่งไม่ได้มีการรับรองตามกฎหมาย จนสูญเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นธุรกิจของนายภูริทัต พี่ชายของฟิล์ม แต่มีการให้ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง


กรณีที่ 4 มีผู้มาร้องเรียนว่า ได้ให้เงินยืมกับผู้บริหารบริษัท ระบุกู้ยืม จำนวน 1.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 โดยอ้างว่าจะใช้คืน แต่มีการใช้คืนไปเพียงบางส่วน ยังเหลืออีกจำนวนหนึ่ง



กรณีที่ 5 มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับบริษัทหนึ่ง ที่มีนายภูริทัต พี่ชายของฟิล์ม เป็นผู้บริหาร ว่าได้ถูกชักชวนลงทุน โดยทำสัญญารับผลประโยชน์ แต่ได้ไม่ครบตามสัญญา



กรณีที่ 6 ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้เสียหายที่ถูกชักชวนให้ซื้อขาย เหรียญ เอเซียน เอฟินเทค หรือ A-Fin Coin ของบริษัทหนึ่ง โดยนายสิทธิ์ศักดิ์ ผู้ที่เริ่มโครงการดังกล่าว มีการชวนลงทุน ซึ่งมีหลักฐานจากผู้เสียหาย ว่ามีศิลปินบางคนไปร่วมกิจกรรมในการดำเนินการ และไม่ใช่แค่พรีเซนเตอร์เท่านั้น



กรณีที่ 7 มีผู้เสียหายมาร้องเรียน เพราะเกรงว่าบุคคล กลุ่มบุคคล บริษัท จะมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องในหลายรูปแบบ และหากมีความเชื่อมโยงจะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายใด ก็ขอให้โปรดพิจารณาดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของกระบวนการยุติธรรมไทยกลับมา

ต่อเนื่องมาในวันที่ 12 ก.พ. 68 เมื่อ “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน”ได้ออกมาเล่าในรายการแฉ ว่าตนและภรรยา “ใบเตย อาร์สยาม” ถูกดาราตัวจี๊ดเรียกเงิน 14 ล้าน อ้างจะทำให้รอดจากคดี Forex-3D ซึ่งงานนี้ฟิล์มก็ถูกโยงว่าเป็นดาราคนดังกล่าว จนต้องออกมาเคลียร์ว่าไม่เกี่ยว หากทำจริงคงไม่สนิทใบเตยมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งแมนก็ออกมาโพสต์ต่อ บอกไม่ใช่ว่าไม่มีหลักฐาน กฎแห่งกรรมมีจริง และเร็วๆ นี้แน่นอน

ก่อนล่าสุดวันนี้ “อี้ แทนคุณ” จะออกมาเสริม โดยเผยว่าตนมีหลักฐานเด็ด เพื่อเอาผิดฟิล์มในกรณี “แมน - ใบเตย” พร้อมยังพา 5 ผู้เสียหาย ที่อ้างว่าถูกฟิล์มตบทรัพย์ เข้าพบ “บิ๊กเต่า” เพื่อให้ข้อมูลพิจารณาเอาผิด ในข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ

ขณะที่ “เคนโด้ เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร”ก็ได้เดินทางมาที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมผู้เสียกว่า 30 คน เพื่อขอให้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์บริษัท K4 หลังถูกหลอกลงทุนธุรกิจตู้เติมเงิน เสียหายกว่า 50 ล้าน ซึ่งงานนี้ก็มีชื่อของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เข้ามาเอี่ยวอีก เนื่องจากเคยมีภาพที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทดังกล่าว

โดยเคนโด้เผยว่า “ผมขอเปิดชื่อคนดังที่คาดว่าจะมีเอี่ยวกับกรณีนี้ด้วยหรือไม่ คนแรกคือ ฟิล์ม รัฐภูมิ ที่ทางบริษัทได้มีการนำภาพมาแอบอ้าง ทำให้หลายคนหลงเชื่อลงทุน ผมไม่ได้จะปรักปรำ และคิดว่า ฟิล์มเองก็คงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวอะไร จึงอยากให้ทาง ฟิล์ม ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และออกมาแจ้งความเอาผิดบริษัทเพราะนำภาพไปใช้”

(ขอบคุณข้อมูลจาก : 3Plusnews, dailynews online)









ที่มา : MgrOnline