“นพดล” อวย “นายแม้ว” ช่วยสร้างสันติภาพในเมียนมาเร็วขึ้น แนะอย่ามองบทบาทผู้ช่วย รมต.จีน ทำให้ไทยขาดอิสระ
เผยแพร่ : 19 ก.พ. 2568 11:57:47
• นายนพดล ปัทมะ เห็นว่าไม่ควรตีความบทบาทผู้ช่วยรัฐมนตรีจีนในไทยว่าทำให้ไทยขาดอิสระภาพ
• นายนพดล เชื่อบทบาทที่ปรึกษาประธานอาเซียนของอดีตนายกฯ ทักษิณ จะช่วยให้เกิดสันติภาพในเมียนม่าเร็วขึ้น

“นพดล” แนะอย่ามองการทำงานของผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน ทำให้ไทยขาดอิสระ เพราะปัญหาเกี่ยวข้องหลายประเทศ ต้องประสานความร่วมมือ เชื่อ บทบาทที่ปรึกษาประธานอาเซียนของอดีตนายกฯ ทักษิณ จะทำให้เกิดสันติภาพในเมียนมาเร็วขึ้น
นายนพดล ปัทมะ สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวตอบข้อวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการและฝ่ายการเมือง ว่า รัฐบาลนี้ต้องแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ในพื้นที่เมียนมา เพราะการกดดันของประเทศจีนและการเดินทางมาของผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯ ของจีน เกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขดังกล่าวนั้นจะทำให้ไทยขาดอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นการมองที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และไม่ค่อยสร้างสรรค์ เพราะภารกิจและอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาในดินแดนของประเทศไทยนั้น ย่อมเป็นเรื่องของรัฐบาลไทยโดยตรง แต่ปัญหาข้างต้นเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประชาชนหลายประเทศ ดังนั้น ทั้งไทย จีน และเมียนมา จึงได้ประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่จะปกป้องคุ้มครองคนไทยจากการหลอกลวงของพวกคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติดและปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งก็ต้องชื่นชมมาตรการของรัฐบาล เช่นตัดไฟ ห้ามส่งน้ำมันและตัดระบบอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
นายนพดล กล่าวต่อว่า ปัญหาของเมียนมาและอาเซียนที่ต้องร่วมกันแก้ไขระยะยาว ก็คือ การมีสันติภาพอย่างยั่งยืนในเมียนม่าซึ่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาการขับเคลื่อนในระดับอาเซียนนั้นไม่ค่อยคืบหน้า แม้จะมีฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนไปหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ตั้งแต่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนเห็นความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประธานอาเซียนและที่ปรึกษาประธานอาเซียน ซึ่งมีเครือข่ายผู้นำของประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสันติภาพในเมียนมาจะสามารถผลักดันแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะการสู้รบและความขัดแย้งในเมียนม่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นฝ่ายรับเคราะห์กรรม และนอกจากนั้น ประเทศไทยก็ยังแบกรับปัญหาที่กระฉอกข้ามแดนปีแล้วปีเล่า ซึ่งตนได้เคยเสนอแนวคิดทรอยก้าพลัส ก็คือ มีเวทีการพูดคุยกันระหว่างอาเซียน เมียนม่า ไทยและประเทศมหาอำนาจในภูมิภาค เช่น จีน อินเดีย
“การยุติความขัดแย้งและสงครามสามารถทำได้โดยการเจรจา ดูตัวอย่างการที่สหรัฐฯ และรัสเซีย พยามที่จะเจรจายุติสงครามในยูเครนก็ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องเมียนมานั้น คิดว่า ถ้าทุกฝ่ายตั้งใจก็สามารถที่จะ สร้างสันติภาพที่ยั่งยืนตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนได้ แต่ต้องเปลี่ยน ”การทูตปวกเปียก” เป็น ”การทูตปูนปั้น” เพื่อปั้นสันติภาพในเมียนมา ปั้นความยั่งยืน และเสถียรภาพในภูมิภาคอาเซียนให้ได้” นายนพดล กล่าว
ที่มา : MgrOnline