กสทช. เวทีแห่งอำนาจ หรือสนามประลองของสองยักษ์โทรคมนาคม?

เผยแพร่ : 18 ก.พ. 2568 17:16:20
X

เมื่อสนามแข่งขันโทรคมนาคมไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาคธุรกิจ แต่ลามไปถึงเวทีของหน่วยงานกำกับดูแล

ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะนี่คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารของคนทั้งประเทศและเม็ดเงินมหาศาลที่หมุนเวียนในระบบ ไม่แปลกเลยที่ทุกการเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมนี้จะมีเดิมพันสูง และศึกครั้งสำคัญระหว่าง AIS และ TRUE-DTAC ได้เปลี่ยนสมรภูมิการแข่งขันจากตลาดธุรกิจไปสู่ องค์กรกำกับดูแลโทรคมนาคมของประเทศ – กสทช.

กสทช. องค์กรที่ควรเป็นกลาง แต่กลับกลายเป็นเวทีแข่งขัน

ภายใต้โครงสร้างของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งมีกรรมการ 7 ท่าน ถูกคาดหวังว่าจะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแลที่เป็นกลางและรักษาสมดุลของตลาด แต่ความเป็นจริงที่ปรากฏกลับแตกต่างออกไป
แทนที่จะเป็นผู้ตัดสินกลางสนาม กสทช. กลับถูกแบ่งเป็น สองขั้วอำนาจ อย่างชัดเจน
• "ฝั่งค่ายเขียว" (AIS) ที่ถือเสียงข้างมาก (4 เสียง)
• "ฝั่งค่ายแดง" (TRUE-DTAC) ที่มีเสียงข้างน้อย (3 เสียง)

นี่คือการแบ่งขั้วที่ชัดเจน ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านการลงมติในประเด็นสำคัญ
• มติอนุมัติควบรวม TRUE-DTAC จบลงที่ 3-3 ก่อนที่ ประธาน กสทช. ต้องใช้เสียงชี้ขาด
• มติ AIS ซื้อ 3BB ผ่านไปอย่างง่ายดายด้วยคะแนน 4-0

จากตัวเลขนี้ ไม่ต้องอธิบายให้มากความก็เห็นได้ชัดว่า เสียงข้างมากใน กสทช. อยู่ฝั่งไหน และผลลัพธ์ของเกมนี้จะไปในทิศทางใด


เมื่อเกมในห้องประชุมลามไปถึงห้องพิจารณาคดี

หากความขัดแย้งยังจำกัดอยู่แค่ในห้องประชุม กสทช. อาจเป็นเพียงเรื่องของแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมากลับเป็นการนำเอาความขัดแย้งไปสู่การฟ้องร้องคดีความ

• กรรมการบางฝ่ายถูกดำเนินคดีในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
• บางฝ่ายใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อตอบโต้กัน
• การตรวจสอบภายใน กสทช. ถูกผลักให้กลายเป็นเครื่องมือในการห้ำหั่นทางอำนาจ

ศึกนี้ชัดเจนว่า ไม่ได้เป็นแค่ความขัดแย้งของสองขั้วโทรคมนาคมอีกต่อไป แต่มันคือเกมแห่งอำนาจที่เดิมพันด้วยอนาคตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย

ศาลตัดสินคดี: เมื่อตัวแปรสำคัญทำให้สมดุลอำนาจเปลี่ยนไป

หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้คือ คำตัดสินให้จำคุก ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ที่เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของขั้วอำนาจ

• ก่อนหน้านี้ สมดุลอำนาจใน กสทช. เป็น 4 ต่อ 3 ซึ่งทำให้ค่ายเขียวได้เปรียบ
• หากมีการเปลี่ยนแปลงที่นั่งในคณะกรรมการ อาจทำให้สมดุลกลาย เป็น 3 ต่อ 3

การเปลี่ยนแปลงนี้หมายความว่า การออกมติสำคัญใด ๆ ต่อไป อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนที่ผ่านมา และนั่นทำให้ฝั่งค่ายเขียวต้องกลับมาคิดเกมใหม่

ยุทธศาสตร์ของค่ายเขียว: พลังจากเครือข่ายที่มองไม่เห็น

แม้จะมีเสียงข้างมากใน กสทช. แต่สิ่งที่ทำให้ AIS มีแต้มต่อในเกมนี้คือ การสนับสนุนจากเครือข่ายภายนอก ที่ช่วยขับเคลื่อนเกมให้เดินหน้าไปในทิศทางที่ต้องการ

• สภาองค์กรผู้บริโภค ที่มีบทบาทสำคัญในการคัดค้าน TRUE-DTAC
• สารี อ่องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรผู้บริโภค ที่ออกมาสนับสนุนแนวทางของค่ายเขียวอย่างชัดเจน
• เครือข่ายสื่อ ที่ทำให้ทิศทางของข้อมูลข่าวสารออกมาในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายหนึ่ง

ทั้งหมดนี้รวมกันเป็น “ยุทธศาสตร์ไร้รอยต่อ” ที่ช่วยให้ฝั่งค่ายเขียวเดินเกมได้อย่างแข็งแกร่ง

ศึกสองยักษ์: เมื่อโครงสร้างธุรกิจกลายเป็นปัจจัยชี้ขาด

สิ่งที่ทำให้ศึกนี้น่าสนใจมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องของจำนวนเสียงโหวตใน กสทช. หรือกลยุทธ์ที่ใช้กัน แต่เป็น โครงสร้างของแต่ละขั้วอำนาจ ที่สะท้อนถึงความได้เปรียบเสียเปรียบในระยะยาว

• AIS (ค่ายเขียว) : มีรากฐานจากอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งมีโครงสร้างการกำกับดูแลที่ซับซ้อน ทำให้เข้าใจกลไกการเมืองและการบริหารอำนาจได้เป็นอย่างดี
• TRUE-DTAC (ค่ายแดง) : เป็นบริษัทที่มีโครงสร้างถือหุ้นแบบลูกครึ่ง ไทย-นอร์เวย์ ซึ่งอาจต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการปรับตัวให้เข้ากับบริบทของระบบราชการไทย

เมื่อสงครามข่าวสารกลายเป็นเครื่องมือสำคัญ

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากศึกนี้คือ การใช้สื่อเป็นอาวุธ
• ทั้งสองค่ายต่างมีสื่อของตัวเองที่พร้อมสนับสนุนมุมมองของตนเอง
• กระแสข่าวที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้กันนอกสนามของ กสทช.
• ข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่ออกไป สร้างความเข้าใจที่แตกต่างกันในมุมมองของประชาชน

กสทช. กำลังไปทางไหน?

คำถามสำคัญที่ยังคงรอคำตอบคือ อนาคตของ กสทช. และตลาดโทรคมนาคมไทยจะเป็นอย่างไร?

1. จะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ กสทช. หรือไม่? การแต่งตั้งกรรมการใหม่อาจทำให้สมดุลอำนาจเปลี่ยนไปอีกครั้ง
2. รัฐบาลจะเข้ามาแทรกแซงเพื่อสร้างสมดุลหรือไม่? เพราะอุตสาหกรรมโทรคมนาคมส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจและประชาชน
3. สุดท้ายแล้วใครจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ? ระหว่าง ยักษ์พลังงานไทย หรือ ยักษ์ลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์

สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ สงครามนี้ยังไม่จบ และผู้บริโภคอาจเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

กสทช. จะกลับสู่ความสมดุล หรือเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด?

ที่มา : MgrOnline