ดีเอสไอ.เผยล่องเรือใช้โดรน-โซนาร์ สแกนพื้นที่ 3 จุด หาปมคลายคดีแตงโม อีก 2 สัปดาห์ เปิดข้อมูลทั้งหมด
เผยแพร่ : 17 ก.พ. 2568 15:44:21
• บริเวณที่สำรวจ ได้แก่ ท่าทราย และวัดค้างคาว
• คาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดภายใน 2 สัปดาห์

ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษดีเอสไอ เปิดเผยหลัง หลังใช้โดรน-โซนาร์ สำรวจเส้นทางเดินเรือคดีแตงโม3 จุด บริเวณท่าทราย-วัดค้างคาว คาด 2 สัปดาห์ได้ข้อมูลทั้งหมด
วันนี้ (17 ก.พ. 68) เวลาประมาณ 12.30 น. บ้านเรือเล็ก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วย นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ร่วมแถลงหลังลงสำรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางจุดเกิดเหตุที่ยังมีข้อสงสัยในช่วงเช้า หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 โดยมีการใช้โดรนเซ็นเซอร์สแกนและเครื่องโซนาร์สำรวจใต้น้ำตามเส้นทางเดินเรือ
นายไกรศรี เปิดเผยว่า สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้มี 3 ส่วน คือ เครื่องโซนาร์สำรวจใต้น้ำ โดรนเก็บภาพ และโดรนเลเซอร์สแกน ในช่วงเช้าลงพื้นที่วัดค้างคาวเนื่องจากเป็นจุดที่มีการจอดเรือเป็นระยะเวลานาน ได้เก็บข้อมูลตั้งแต่บริเวณท่าเรือจนถึงประตูน้ำ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะนำมาประมวลผลเป็นภาพพื้นที่ที่เกิดเหตุแบบ 3 มิติ โดยการสำรวจเมื่อเช้ามีอุปสรรค เรื่องกระแสน้ำ ที่รบกวนเครื่องโซนาร์ให้เก็บข้อมูลได้ไม่ดีเท่าที่ควรจึงต้องใช้เวลานาน ส่วนผลการสำรวจของวันนี้กับเหตุการณ์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว อาจจะมีเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่กรมชลประทานมีข้อมูลที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวเสริมว่า ข้อมูลที่ได้ จากการใช้โซนาร์ เช่น จุดที่ตกน้ำ บาดแผลที่ขาโดนใบพัดจริงหรือไม่ บริเวณที่ตกมีสิ่งก่อสร้างใดที่ทำให้ขาศพเป็นแผลหรือไม่ ซึ่งช่วงเช้ายังได้เก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อนำไปตรวจเทียบกับน้ำในปอดของแตงโม ส่วนช่วงบ่ายนี้จะดำเนินการสำรวจอีก 8 จุดทางเหนือ เช่น ร้านอาหารบ้านตานิด ซึ่งเป็นจุดน่าสงสัยที่เรือมีการชะลอ และจะเก็บน้ำในบริเวณนี้ไปตรวจพิสูจน์ด้วย โดยผลที่ออกในสัปดาห์หน้าจะนำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ต่างประเทศ ว่ามีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง เพื่อมาช่วยในการตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป ส่วนเรื่องการรับเป็นคดีพิเศษกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น
"ผลการวิเคราะห์ในครั้งนี้จะนำผลทั้งหมดไปให้กับแพทย์นิติเวช ที่เราได้เชิญมาร่วมตรวจสอบ รวม 10 สถาบัน นอกจากนี้ในเส้นทางที่ตรวจทั้งหมดตามลำน้ำต่างๆ ตัวสแกนเนอร์จะเก็บภาพตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ตรงไหนมีกล้องวงจรปิด มีสิ่งที่เรือสามารถส่งคนขึ้นท่าได้ เราจะเก็บมาวิเคราะห์ทั้งหมดและจะนำมาตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะมาวิเคราะห์ร่วมกับคำให้การของบุคคลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยหลังจากนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ผลการวิเคราะห์ต่างๆ ก็จะออกมา จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ โดยในวันที่ 20 ก.พ. นี้ จะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมคดีหนึ่ง และจะนำผลการสอบคดีแตงโมในครั้งนี้ไปปรึกษาด้วย เพื่อนำมาช่วยตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลในครั้งต่อไป"
ต่อมา พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นโทรศัพท์ของแตงโม ว่า ที่ตนเดินทางไปรับโทรศัพท์จากบังแจ๊คถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแทนดีเอสไอเนื่องจาก ตนรู้สึกว่าโทรศัพท์อาจเป็นของปลอมตั้งแต่แรก แต่ตนคิดว่าสิ่งที่สำคัญไม่ใช่โทรศัพท์ แต่คือข้อมูลใน iCloud
ขณะที่ แป๊ะซะ เพื่อนสนิทของแตงโม กล่าวว่า มั่นใจในดีเอสไอ และบ้านพระอาทิตย์ เชื่อว่าเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์จะสามารถพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ ตนเสียดายที่เมื่อ 3 ปีที่แล้วไม่ได้ใช้เทคโนโลยีแบบนี้ไม่เช่นนั้นคงพบความจริงไปแล้ว ตนเชื่อว่าการดำเนินการครั้งนี้จะทำให้คนบนเรือร้อนๆ หนาวๆ ส่วนข่าวลือวงในว่ามีคนกลับลำมาสารภาพ ตนคิดว่าที่คนนั้นกลับลำอาจจะเกี่ยวกับสถานะทางสังคมของคนนั้นที่มี
วันนี้ (17 ก.พ. 68) เวลาประมาณ 12.30 น. บ้านเรือเล็ก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วย นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ร่วมแถลงหลังลงสำรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางจุดเกิดเหตุที่ยังมีข้อสงสัยในช่วงเช้า หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 โดยมีการใช้โดรนเซ็นเซอร์สแกนและเครื่องโซนาร์สำรวจใต้น้ำตามเส้นทางเดินเรือ
นายไกรศรี เปิดเผยว่า สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้มี 3 ส่วน คือ เครื่องโซนาร์สำรวจใต้น้ำ โดรนเก็บภาพ และโดรนเลเซอร์สแกน ในช่วงเช้าลงพื้นที่วัดค้างคาวเนื่องจากเป็นจุดที่มีการจอดเรือเป็นระยะเวลานาน ได้เก็บข้อมูลตั้งแต่บริเวณท่าเรือจนถึงประตูน้ำ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะนำมาประมวลผลเป็นภาพพื้นที่ที่เกิดเหตุแบบ 3 มิติ โดยการสำรวจเมื่อเช้ามีอุปสรรค เรื่องกระแสน้ำ ที่รบกวนเครื่องโซนาร์ให้เก็บข้อมูลได้ไม่ดีเท่าที่ควรจึงต้องใช้เวลานาน ส่วนผลการสำรวจของวันนี้กับเหตุการณ์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว อาจจะมีเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่กรมชลประทานมีข้อมูลที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวเสริมว่า ข้อมูลที่ได้ จากการใช้โซนาร์ เช่น จุดที่ตกน้ำ บาดแผลที่ขาโดนใบพัดจริงหรือไม่ บริเวณที่ตกมีสิ่งก่อสร้างใดที่ทำให้ขาศพเป็นแผลหรือไม่ ซึ่งช่วงเช้ายังได้เก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อนำไปตรวจเทียบกับน้ำในปอดของแตงโม ส่วนช่วงบ่ายนี้จะดำเนินการสำรวจอีก 8 จุดทางเหนือ เช่น ร้านอาหารบ้านตานิด ซึ่งเป็นจุดน่าสงสัยที่เรือมีการชะลอ และจะเก็บน้ำในบริเวณนี้ไปตรวจพิสูจน์ด้วย โดยผลที่ออกในสัปดาห์หน้าจะนำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ต่างประเทศ ว่ามีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง เพื่อมาช่วยในการตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป ส่วนเรื่องการรับเป็นคดีพิเศษกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น
"ผลการวิเคราะห์ในครั้งนี้จะนำผลทั้งหมดไปให้กับแพทย์นิติเวช ที่เราได้เชิญมาร่วมตรวจสอบ รวม 10 สถาบัน นอกจากนี้ในเส้นทางที่ตรวจทั้งหมดตามลำน้ำต่างๆ ตัวสแกนเนอร์จะเก็บภาพตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ตรงไหนมีกล้องวงจรปิด มีสิ่งที่เรือสามารถส่งคนขึ้นท่าได้ เราจะเก็บมาวิเคราะห์ทั้งหมดและจะนำมาตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะมาวิเคราะห์ร่วมกับคำให้การของบุคคลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยหลังจากนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ผลการวิเคราะห์ต่างๆ ก็จะออกมา จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ โดยในวันที่ 20 ก.พ. นี้ จะเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมคดีหนึ่ง และจะนำผลการสอบคดีแตงโมในครั้งนี้ไปปรึกษาด้วย เพื่อนำมาช่วยตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลในครั้งต่อไป"
ต่อมา พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นโทรศัพท์ของแตงโม ว่า ที่ตนเดินทางไปรับโทรศัพท์จากบังแจ๊คถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแทนดีเอสไอเนื่องจาก ตนรู้สึกว่าโทรศัพท์อาจเป็นของปลอมตั้งแต่แรก แต่ตนคิดว่าสิ่งที่สำคัญไม่ใช่โทรศัพท์ แต่คือข้อมูลใน iCloud
ขณะที่ แป๊ะซะ เพื่อนสนิทของแตงโม กล่าวว่า มั่นใจในดีเอสไอ และบ้านพระอาทิตย์ เชื่อว่าเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์จะสามารถพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ ตนเสียดายที่เมื่อ 3 ปีที่แล้วไม่ได้ใช้เทคโนโลยีแบบนี้ไม่เช่นนั้นคงพบความจริงไปแล้ว ตนเชื่อว่าการดำเนินการครั้งนี้จะทำให้คนบนเรือร้อนๆ หนาวๆ ส่วนข่าวลือวงในว่ามีคนกลับลำมาสารภาพ ตนคิดว่าที่คนนั้นกลับลำอาจจะเกี่ยวกับสถานะทางสังคมของคนนั้นที่มี
@thaicrimeonline “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง ♬ เสียงต้นฉบับ - thaicrimeonline



ที่มา : MgrOnline