ตลท.เกาะติดคดี "หมอบุญ" โยงโบรกฯเอี่ยวร่วมโกงทั้งรายบุคคล-บริษัท ขอรอหลักฐานชัด
เผยแพร่ : 28 พ.ย. 2567 16:42:27
• ตลท. กำลังติดตามกรณีคดีหมอบุญ ที่มีการกล่าวหาโบรกเกอร์ร่วมกระทำความผิด
• มีการกล่าวหาทั้งบุคคลและบริษัทโบรกเกอร์
• ตลท. รอหลักฐานที่ชัดเจนก่อนดำเนินการใดๆ
• ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบรกเกอร์ที่ถูกกล่าวหา
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณี นพ.บุญ วนาสิน อดีตประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกงประชาชนว่า ตลท.กำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องสำคัญและทุกคนให้ความสนใจกันมาก
โดยเฉพาะกรณีที่มีการโยงใย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บางแห่งเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วย นพ.บุญ ชักชวนผู้ลงทุนด้วย ซึ่ง ตลท.กำลังประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังจากคาดว่า ก.ล.ต.ได้สอบถามไปยัง บล.ที่ปรากฎชื่อว่าเกี่ยวข้องทั้งรายบุคคลและรายบริษัท
พร้อมกันนั้น ตลท.ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีด้วย
นายอัสสเดช กล่าวว่า หลักการกำกับดูแลของ 2 หน่วยงาน ต้องมีหลักฐานชัดเจนก่อนจะเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดี เพื่อให้มั่นใจในการกระทำความผิดของผู้เกี่ยวข้อง จะเปิดเผยข้อมูลโดยไม่สืบสวนสอบสวนไม่ได้ เพราะหากเกิดผิดพลาดไปก็อาจจะกระทบต่อตลาดทุนได้
ทั้งนี้ ตลท.ประสานการทำงานกับ ก.ล.ต.ค่อนข้างใกล้ชิดมาโดยตลอด กรณีที่ทั้งสองหน่วยงานมีข้อมูลตรงกันว่ามีข้อมูลบางอย่างที่มีนัยสำคัญ มีผลกระทบต่อมูลค่าธุรกิจนั้นๆ ได้ และหากเห็นว่าถ้าเราไม่ได้เปิดเผยก็จะเป็นอันตราย จึงอยู่ระหว่างการหาแนวทางผลักดันเพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ได้มากขึ้น
"ไม่ว่า ณ วันนี้จะมีเคสหรือไม่มีเคส เราก็ยังตรวจสอบ บจ.เยอะมาก ไม่มีวันหยุด เพื่อป้องกัน ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ หรือสื่อสารผ่านกรรมการบริษัทจดทะเบียน สื่อสารผ่าน Committee ต่างๆ ในการให้ความรู้ไม่หยุดยั้ง" นายอัสสเดช กล่าว
นายอัสสเดช กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตลท.อาจจะสื่อสารช้าไป รวมถึงรูปแบบการสื่อสาร ความชัดเจนว่าเราควรจะออกมาให้ความรู้นักลงทุนมากขึ้นอย่างไร ก็ต้องช่วยเหลือกัน
"สุดท้าย การมีสติ ใจเย็น ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ถ้าเราเห็นโอกาสการลงทุนหรือสร้างผลประโยชน์ ต้องถามตัวเองนิดหนึ่งว่ามันดีเกินจริง หรือปล่าว ถ้าเรารู้สึกว่าไม่น่าจะเป็น้ไปได้ ก็ควรวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งว่าเหมาะสมที่จะลงทุนไหม" นายอัสสเดชกล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : MgrOnline