เสียงจากเกษตรกรหลังรั้วโรงงานสารพิษ วิน โพรเสส : เรายังฝันว่าหน่วยราชการจะขนกากอุตสาหกรรมออกไปได้หมด
เผยแพร่ : 27 พ.ย. 2567 17:38:44
• เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน วิน โพรเสส เมื่อ 7 เดือนก่อน
• ชาวบ้านหนองพะวาได้รับผลกระทบอย่างหนัก
• นายเทียบ (ลุงเทียบ) เป็นตัวแทนชาวบ้านหนองพะวาในการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด
รายงานพิเศษ
มีสวนผลไม้หลากหลายชนิดแห่งหนึ่งกำลังทดลองทำการเพาะปลูกด้วยวิธีใหม่ ที่บ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพราะผืนดินผืนเดิมที่เคยอุดมสมบูรณ์และใช้เป็นแปลงสวนยางพาราขนาด 36 ไร่ มาหลายสิบปี กลายเป็นพื้นที่ปนเปื้อนไปด้วยสารเคมีอันตรายนานาชนิด
ลุงเทียบ สมานมิตร เกษตรกรที่อายุล่วงเลยมาสู่วัยชราแล้ว ตัดสินใจล้มต้นยางพาราเกือบทั้งหมดในสวนลงไปตั้งแต่ปี 2566 เพราะต้นยางที่เคยเป็นแหล่งรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัวของลุงเทียบ ค่อยๆ ให้น้ำยางลดลงเรื่อยๆ จนทยอยยืนต้นตายมาตั้งแต่ปลายปี 2562 และตายเกือบทั้งหมดในอีกไม่กี่เดือนต่อมา จากสาเหตุที่เขาสังเกตพบว่า แหล่งน้ำที่ใช้อยู่ในสวนยางของเขาเปลี่ยนสีไป และมีร่องรอยความเสียหายของคันดินที่คั่นระหว่างสวนยางพารากับบ่อน้ำของโรงงาน วิน โพรเสส ที่มีแนวเขตอยู่ติดกัน
โรงงาน วิน โพรเสส ถูกร้องเรียนจากชาวบ้านหนองพะวามาตลอดหลายปี ว่าเป็นสถานที่ลักลอบนำของเสียอันตรายจากที่อื่นมาทิ้ง และเป็นโรงงานเดียวกันกับที่เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่จนมีสารเคมีอันตรายกระจายฟุ้งไปทั่ว เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567
“ผมเป็นเกษตรกร ก็ต้องทำอาชีพเกษตร เมื่อสวนยางยืนต้นตายไปหมดแล้ว ดินเดิมก็ใช้ไม่ได้แล้ว ผมก็ต้องลองคิดหาวิธีใหม่ๆ ให้ที่ทำกินของเรายังใช้การได้”
แปลงสวนผลได้แปลงใหม่ของลุงเทียบ จะมี “ดินใหม่” ถูกถมขึ้นมาสูงกว่าที่ดินเดิมไปอีกชั้น จากนั้นจึงจะนำผลไม้ทั้งมะม่วง ทุเรียน พุทรา อะโวคาโด ไปปลูกลงบนดินที่ถูกถมขึ้นมาใหม่ ด้วยวิธีการนี้ จะทำให้รากของพืชที่ปลูกลงไปใหม่ ไม่แทงทะลุลงไปถึงดินผืนเดิมที่ปนเปื้อน แต่ก็ทำให้การเพาะปลูกมีต้นทุนที่สูงขึ้นมาก
“ซื้อดินใส่รถ 6 ล้อมา เที่ยวละ 700 บาทครับ ต้องเอาถมให้สูงขึ้นมาก ดังนั้นดิน 1 คันรถที่ถูกถมลงไป ก็จะเป็นพื้นที่ให้ปลูกผลไม้ได้ประมาณ 2 ต้นเอง ... ผมก็บอกไม่ได้ว่า ทั้งสวนนี้ใช้เงินเฉพาะที่เป็นค่าถมดินใหม่เป็นเงินเท่าไหร่ บอกได้ว่า เยอะ ... แต่ถ้าไม่ทำ ก็ไม่รู้จะทำอะไร”
เช้าวันที่ 22 เม.ย. 2567 เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่โรงงาน วิน โพรเสส ภาพเพลิงไหม้โรงงานภาพแรกที่ถูกเผยแพร่ออกไป ถูกบันทึกไว้จากพื้นที่สวนยางพาราของลุงเทียบ ตลอดเวลาที่เกิดเพลิงไหม้ มีเสียงระเบิดจากถังสารเคมีที่ถูกเก็บไว้ในโรงงานหลายพันถัง ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควันสีดำน่ากลัวลอยขึ้นเหนือโรงงานและที่ทำกินของชายชราชาวหนองพะวา ...
แน่นอนว่า เทียบ สมานมิตร เฝ้ามองเหตุการณ์นั้นด้วยความกังวลอย่างมาก ว่าสวนผลไม้ที่เขาลงทุนถมดินลงไปใหม่ จะได้รับผลกระทบเพิ่มไปอีก แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาก็หวังว่า เมื่อเกิดเหตุที่ร้ายแรงเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว ก็อาจทำให้ภาครัฐ มีความสนใจที่จะลงมาแก้ปัญหาที่ชาวบ้านต่อสู้มาอย่างยืดเยื้อยาวนานอย่างจริงจังเสียที
25 พ.ย. 2567 เป็นเวลา 7 เดือนกับอีก 3 วัน หลังไฟไหม้ วิน โพรเสส ... ความกังวลใจของลุงเทียบ สมานมิตร ยังไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
“ในช่วงที่ไฟไหม้ใหม่ๆ มีคนจากหน่วยราชการทุกหน่วยงานมาหาผมเยอะแยะมากมาย ทั้งมาดู มารับฟังสภาพปัญหา มาบอกว่าจะแก้ไข รัฐมนตรีอุตสาหกรรมคนก่อนก็มา และเมื่อเร็วๆ นี้ท่านรัฐมนตรีคนใหม่ก็มาตั้งแต่ก่อนจะรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการซะอีก”
“ทุกคนที่มา ก็บอกว่าจะเร่งแก้ไขให้ ชาวบ้านก็ขอให้กรมโรงงานฯ หรือกระทรวงอุตสาหกรรมทำเป็นเรื่องแรกก่อนเลย ก็คือ ต้องรีบขนย้ายกากอุตสาหกรรมทั้งหมดในโรงงาน รวมทั้งน้ำและที่อยู่ใต้ดินออกไปกำจัดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพราะมันคือต้นเหตุของความสูญเสียทั้งหมด ... แต่นี่ผ่านเหตุไฟไหม้มา 7 เดือนแล้ว พวกเราชาวบ้านก็ยังไม่เห็นรัฐทำอะไรเลย”
“ไม่มีงบประมาณ” และ “ติดขัดข้อกฎหมาย” เป็นคำอธิบายถึงข้อจำกัดในการแก้ปัญหาที่ชาวหนองพะวา รวมไปถึงชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกากอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้รับข้อความแบบเดียวกันมาตลอด และตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาก็ยังไม่เกิดกระบวนการใดๆ จากทางหน่วยงานรัฐที่จะช่วยทะลวงข้อจำกัดเหล่านี้ ... ข้อความล่าสุดที่ลุงเทียบได้ยินมาจากกระทรวงอุตสาหกรรม ก็เช่นเดียวกัน
“ไม่กี่วันมานี้ ทางอุตสาหกรรมเขาก็มาบอกว่าเดี๋ยวจะเริ่มมาขนกากออกไปแล้วในช่วงเดือนธันวาคม ผมฟังแล้วก็ยังเฉยๆ เพราะเขายังไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องงบประมาณเลย ที่เขาเคยบอกว่า จะขอเงิน 397 ล้านบาท จากคณะรัฐมนตรีก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าเลย หรือแม้แต่รัฐมนตรีอุตสาหกรรมคนปัจจุบัน ที่มาหาพวกเราตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่ง และบอกว่าจะขนกากออกไปใน 2 เดือน เราก็ยังรอดูอยู่”
“ที่เราได้ข้อมูลมา คือ กรมโรงงานฯ มีเงินที่ได้จากทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของโรงงาน คือ 4.9 ล้านบาท ดูเหมือนเขาก็จะเอาเงินก้อนนี้มาใช้ขนย้ายไปก่อน ... แต่เราก็รู้กันมาตลอดว่า การจะขนย้ายของเสียทั้งหมดใน วิน โพรเสส ออกไปกำจัด ต้องใช้เงินเยอะกว่านั้นมาก สื่อเขาก็เสนอกันมาตลอดว่าเป็นเงินในหลักร้อยล้านบาท เราก็เลยยังไม่เห็นว่า เงิน 4.9 ล้านบาท จะช่วยแก้ปัญหาของชาวบ้านได้จริงยังไง” ลุงเทียบ ตั้งคำถามถึงกระบวนการขนย้ายที่อาจเกิดขึ้นก่อน ว่าเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือไม่
7 เดือน นับจากวันที่เกิดเพลิงไหม้โรงงาน วิน โพรเสส ... ชาวบ้านหนองพะวาที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบรายใหญ่ที่สุด บุคคลที่ทุกหน่วยงานเอ่ยถึงอย่างสนิทสนมในชื่อ ลุงเทียบ ต้องเป็นด่านหน้าที่พบปะกับหน่วยงานมากหน้าหลายตามาตลอด ... ลุงเทียบ เพียงหวังว่า วันที่กากอุตสาหกรรมทั้งหมดนี้ถูกขนย้ายออกไป จะมาถึงในอีกไม่นาน
“เราก็รอวันที่เขาจะมาขนไอ้กากพวกนี้ออกไป ระหว่างรอ เกษตรกรอย่างเราก็ทำเกษตรในที่ดินของตัวเองต่อไป เราหวังแค่ว่า ถ้ามันถูกขนออกไปแล้ว อย่างน้อยธรรมชาติมันจะค่อยๆ บำบัดตัวมันเองไปเรื่อยๆ ที่ดินของเรา มันก็อาจจะมีค่าพอที่จะกลับมาเป็นมรดกส่งต่อไปให้ลูกหลานเราได้” เทียบ สมานมิตร ปิดท้ายบทสนทนา
ที่มา : MgrOnline