‘หมอเปรมศักดิ์’ ชง กมธ.ไอซีที วุฒิฯ สอบปม "หมอบุญ" เรียกหน่วยงานแจง-จี้ขันน็อตกันซ้ำรอย
เผยแพร่ : 26 พ.ย. 2567 12:50:09
• เล็งเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงการบังคับใช้กฎหมาย
• เพื่อเข้มงวดการใช้กฎหมายป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันซ้ำรอย
‘นพ.เปรมศักดิ์’ ชง กมธ.ไอซีที วุฒิสภา สอบปม ‘หมอบุญ’ เล็งเรียกหน่วยงาน แจงการบังคับใช้กฎหมาย หวังขันน็อตหน่วยงานเข้มใช้ กม. ป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอย
วันนี้(26 พ.ย.) นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม (กมธ.ไอซีที) วุฒิสภา แถลงว่า วันที่ 2 ธันวาคมนี้ กมธ.ไอซีทีมีวาระพิจารณาตรวจสอบกรณีการใช้สื่อโซเชียลหลอกลวงให้ลงทุน ในประเด็นที่เกิดขึ้นกับ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งบริษัทธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่พบว่าถูกดำเนินคดีรวมกับพวกฐานฉ้อโกงกับประชาชน และฟอกเงิน ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าเสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรมที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจไทย จึงขอให้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.), สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้ามาให้ข้อมูล ซึ่งจะขอให้รายงานว่าแต่ละหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะมีจำนวนมากที่ถูกหลอกลวงให้ลงทุน ซึ่งกรณีดังกล่าวโบรกเกอร์อาจมีส่วนที่ต้องร้บผิดชอบด้วย
“กมธ.มีหน้าที่ที่ต้องตรวจสอบว่าการใช้ช่องทางของกฎหมายของหน่วยงานต่างๆ เป็นอย่างไร ทำไมถึงทำปล่อยให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน เพราะก่อนหน้านี้เคยมีกรณีของหุ้นสตาร์ค รวมถึงกรณีของดิไอคอน กรุ๊ป ส่วนกรณีของนพ.บุญ นั้นใช้ความเชื่อถือระดับสูง ดังนั้นผู้เสียหายจึงไม่กล้าแสดงตัว ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขันน็อตเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเป็นคดีซ้ำอีก” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้ นพ.บุญ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกออกหมายจับเข้ามอบตัวและใช้สิทธิต่อสู้ในชั้นศาล อีกทั้งกรณีที่เกิดขึ้นตนขอให้แยกแยะระหว่างการหลอกลวงร่วมลงทุนกับการใช้วิชาชีพด้านสาธารณสุข
ที่มา : MgrOnline