ยิ่งแบนยิ่งปัง! "แม่หยัว" ความสนุกของจินตนาการในเส้นประวัติศาสตร์
เผยแพร่ : 27 พ.ย. 2567 08:57:24
• เกิดกระแสแบนเรตติ้งละครเรื่องนี้
• แต่กลับพบว่าเรตติ้งสูงขึ้นหลังมีกระแสแบน
กลายเป็นว่าหลังมีกระแสแบนตัวเลขเรตติ้งของละครเรื่องแม่หยัว ทางช่องวัน 31 ที่ตอนนี้เดินทางมาถึงจุดใกล้อวสานแล้วกลับสูงขึ้นซะอย่างนั้น
ถ้าตัดเอาประเด็นเรื่องแมวที่ยังไงก็ต้องบอกว่าสมควรต้องโดนด่าแบบไม่มีข้อแก้ตัวออกไป ต้องบอกว่าละครแม่หยัวมีอะไรน่าสนใจให้น่าพูดถึงเยอะทีเดียว โดยเฉพาะการจินตนาการเรื่องขึ้นมาโดยอาศัยความคลุมเครือ ความไม่ตรงกันของประวัติศาสตร์ มโนเอาว่าเรื่องมันควรจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ของแม่หยัวที่มีต่อตัวละครอย่าง พระไชยราชาธิราช รวมถึง ขุนชินราช (วามน) หรือโดยเฉพาะตอนล่าสุดกับการสวรรคตของ สมเด็จพระไชยราชาธิราชและสมเด็จพระยอดฟ้าที่ต้องเรียกว่าเล่นเอาอึ้งเพราะไปไกลต่างไปจากหนังละครเรื่องอื่นๆ และไม่เหมือนกับพงศาวดารฉบับไหนเลย
แต่ถึงแม้จะจินตนาการไปไกลขนาดไหนทว่าโดยรวมแล้วละครเองก็ถือว่ายังคงรักษาเส้นเรื่องทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเหตุการณ์จริงเอาไว้ ทั้งการสวรรคตของพระไชยราชา, พระยอดฟ้าต้องสวรรคต และการขึ้นนั่งเป็นพระมหากษัตริย์ของขุนวรวงศา
ส่วนที่ว่าจินตนาการแล้วทำให้ละครสนุกน่าติดตามหรือไม่ก็คงจะขึ้นอยู่กับความสมเหตุสมผลในความรู้สึกของคนดูที่จะตัดสินกันเอาเอง เพราะก็มีไม่น้อยทีเดียวที่มองว่าคาแรกเตอร์ท้าวศรีสุดาจันทร์เวอร์ชันนี้ดูเป็นนางแบบแคทวอล์คไปหน่อย อีกทั้งยังดูสับสนในความคิดและมีฉากที่ยัดเยียดจงใจให้เป็นที่พูดถึงมากไปนิด ผิดกับคาแรกเตอร์ท้าวศรีสุดาจันทร์เวอร์ชันภาพยนตร์สุริโยทัยที่แลดูสมเหตุสมผลไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากกว่า
อย่างไรก็ตามหากใครเคยผ่านงานละครของผู้ที่เขียนบทเรื่องนี้อย่าง "ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์" ทั้ง ชิงชัง, อีสา รวีช่วงโชติ, กาหลมหรทึก รวมถึงบทสัมภาษณ์ของเธอที่ระบุว่าเธอค้นพบว่าละครที่คนดูรู้สึกว่าสนุกจะต้องมีพล็อตที่หวือหวา มีความพลิกแพลงซึ่งคาดเดาไม่ได้ ที่สำคัญสมัยนี้ละครสนุกสำหรับทุกคนในครอบครัวที่จะดูกันได้ตั้งแต่หลานวัยมัธยมไปจนรุ่นคุณปู่คุณย่านั้นก็แทบจะไม่มีแล้วเพราะทุกคนต่างก็มีความชอบที่เป็นตัวของตัวเองในการเสพ
ขณะที่ละครเรื่องนี้เจ้าตัวก็ระบุเองว่าใช้เรื่องราวของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นแรงบันดาลใจ อาจจะมีข้อเท็จจริงแค่ 40% ที่เหลือ 60% แต่งเติมเอาทั้งนั้นเหล่านี้ก็คงจะเข้าใจได้ในเจตนาของผู้เขียนบทเองและคงไม่แปลกใจเท่าไหร่ว่าทำไมแม่หยัวถึงได้มีจินตนาการที่ไปไกลและออกมาเป็นเช่นนี้
สุดท้าย ต่อให้แม่หยัวจะมโนไปไกลไม่ต่างอะไรไปจากดูหนังอย่าง "ดาวินชี โค้ด" แล้ว แต่ก็(แอบ)หวังว่า ตอนจบของแม่หยัวเองจะยังคงรักษาเส้นเรื่องตามประวัติศาสตร์ของตัวละครอย่างขุนวรวงศากับท้าวศรีสุดาจันทร์เอาไว้ หรือหากจะผิดแผกไปจากที่ว่าก็สมควรจะเตือนกันสักหน่อยว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นแค่การนำแรงบันดาลใจมาสร้างเท่านั้น
เพราะต่อให้บอกว่าสมัยนี้คนดูเค้าไม่ได้โง่เค้าแยกออกว่าอันไหนละครอันไหนสารคดี แต่เชื่อเถอะว่าคนก็มักจะจำและเชื่อเรื่องราวจากหนังละครมากกว่าเรื่องจริงกันเกือบจะทั้งนั้น
ที่มา : MgrOnline