WHA เร่งใช้พลังงานสะอาดทุกภาคธุรกิจ สู่เป้า Net Zero ปี 2050

เผยแพร่ : 26 พ.ย. 2567 19:00:04
X
• เร่งแผนใช้พลังงานสะอาด 1,200 เมกะวัตต์ภายในปี 2029
• คาดสร้างรายได้ 5,600 ล้านบาทจากพลังงานสะอาด
• คาดช่วยลูกค้าลดค่าไฟ 1,860 ล้านบาทต่อปี



"ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น" เดินหน้านำองค์กรสู่ Net Zero ภายในปี 2050 ลดภาวะโลกร้อน เร่งตามแผนปี 2029 ใช้พลังงานสะอาดแตะ 1,200 เมกะวัตต์ สร้างรายได้ถึง 5,600 ล้านบาท และช่วยลดค่าไฟให้ลูกค้าปีละ 1,860 ล้านบาท เดินหน้านำขยะ เผย ESG สู่ Sustainable มองเป็นช่องทางเพิ่มการลงทุนใหม่และสร้างรายได้เพิ่ม


น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า WHA เราจะมอง 3 เรื่องคือgeopolitical tention Sustainability และ Tecnology inflastructer เราจะมองเทรนด์ เรานำมาปรับการลงทุนใน 3 เมกกะเทรนด์นี้ ต้องบอกก่อนว่าที่ผ่านมาโลกประสบปัญหามาก ทั้งอย่างเรนบอมส์ต่างๆ และอีกมาย ซึ่งลูกค้าของ WHA เองประสบมาหลากหลาย ปัจจุบัน WHA มีลูกค้าต่างชาติมากกว่า 85%

โดยหลายปีมานี้พบว่านักลงทุนที่เข้ามาจะถามหาพลังงานสะอาด 100% ล่าสุดที่บริษัทเซ็นกับกูเกิล และต้องการพลังงานสะอาด 100% ทำให้บริษัทต้องใส่ใจกับพลังงานสะอาด 100% และหาปรับเปลี่ยนการทำงานเพื่อตอบโจทย์ เพราะเราใช้น้ำมาก การปล่อยน้ำจากธรรมชาติมาก และปล่อยน้ำเสียมาก ดังนั้น WHA มีการใช้น้ำเยอะมาก เราไปเซี่ยงไฮ้เรามีลูกค้าเยอะมาก ก่อนจะเกิดสงครามการค้า เรามี 4 ธุรกิจหลักๆ เพราะเรากระทบเต็มๆ ทำให้เราใส่ใจว่าจะปรับตัวอย่างไร ต้องลงทุนระบบสาธารณูปโภคของเรารองรับการย้ายฐานการลงทุน สัปดาห์ก่อน WHA ไปออกบูทที่เซี่ยงไฮ้ พบว่านักลงทุนสนใจเข้ามากว่า 500 ราย โดยยุคทรัม 2.1 มีการเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนจากทั่วโลก และในรอบนี้ ทรัม 2.0 รอบนี้เตรียมรับการเคลื่อนย้ายฐานการงลงทุนจากต่างประเทศ แต่รอบนี้คือ new economy

ดังนั้น ในส่วนของ WHA ได้ปรับเปลี่ยนการทำงานทุกสายธุรกิจ อย่างการสร้างศูนย์กระจายสินค้า เพื่อดึงนักลงทุนเพราะหากเราไม่ทำ เงินทุนจะไหลไปที่อื่น ส่วนในธุรกิจขนส่ง WHA ได้หันไปรุกการใช้ รถ EV เพื่อลดปริมาณคาร์บอน เพราะลูกค้าส่วนมากเป็น global หมดเลย และส่วนมากเป็นบริษัทขนส่งขนาดใหญ่ ส่วนในไทยนั้นมีรถขนส่งกว่า 4 ล้านคัน ต้องมาคิดกันว่าจะช่วยให้ลดการใช้รถขนส่งให้เป็น ev ได้อย่างไรใน 3 ปีนี้ และไทยเราต้องทำให้ได้

“เราจึงมองกรีน โลจิสติกส์ เพราะเป็น end to end proces ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมรองรับและเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันและลดต้นทุนการดำเนินงานได้ด้วย อีกกลุ่มคือนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งในส่วนของเราจะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอน แต่ลูกค้าของเราในนิคมปล่อยเต็มๆ เราจะทำอย่างไร”

อย่างไรก็ดี แม้ว่า WHA มีบริษัทลูกที่ปล่อยพลังงานสะอาด ทำให้ต้องทำ net zero จึงปรึกษากับ ปตท. เป็นทางเลือกเพื่อที่ช่วยลูกค้าในนิคมเพื่อเก็บกักคาร์บอน และการปล่อยออกไปทางไหน แม้แต่พลังงานสะอาด หรือ SMR ที่สร้างพลังงานต่อเนื่อง เพราะเป็นแหล่งพลังงานสะอาด เพราะต่อให้เป็นโซลาร์ ก็ตามแต่จะไม่ได้ใช้ตลอด 24 ชม. เพราะหากใช้ตลอดเวลาทำให้เกิดต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น

สำหรับ utally end power ต้องบอกว่า ยุคที่มี data ยุค ai ใช้น้ำหรือพลังงานมากกว่า ดาค้าแบบเดิมถึง 10 เท่า ตรงนี้คือกลุ่มนิคมจะทำได้ ภาคเอกชนทำไม่ได้ ภาครัฐต้องซัปพอร์ตต้องช่วยกัน เพราะการจะดึงเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาหากทุกฝ่ายไม่ช่วยกันจะทำให้เม็ดเงินทุนไหลไปทางอื่น การจะดึงเข้ามารัฐต้องเข้ามาช่วย เอกชนจะทำเองไม่ได้ เพราะทุกหน่วยงานต้องช่วยเหลือเพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามา เพราะประเทศอื่นๆ ก็เป็นทางเลือกการลงทุนได้ ถ้าเราไม่สามารถทำได้ เราจะเสียโอกาสในการลงทุนเพราะเงินลงทุนต่างชาติจะไหลไปที่อื่น

สำหรับกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมนั้น ปัจจุบัน WHA มีนิคมทั้งหมด 12 แห่งในไทย WHA ดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาได้แล้ว 1.6 ล้านล้านบาท ล่าสุดจึงเพิ่มอีก 4 แห่ง ขึ้นมาเพื่อรองรับเม็ดเงินลงทุน แต่สิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือของภาครัฐที่อยากให้ขั้นตอนเร็วขึ้นเพื่อให้ทันกับความต้องการของนักลงทุน

ขณะพลังงานนั้น ขณะนี้ WHA มีพลังงานสะอาดขึ้นมาครึ่งหนึ่งคือ 500 เมกะวัตต์ และภายในปี 2029 พลังงานสะอาดเต้องทำให้ได้ถึง 1, 200 เมกะวัตต์ ซึ่งการจะได้พลังงาน 1,200 เมกะวัตต์ ต้องปลูกป่า 2.8 แสนไร่หรือปลูกต้นไม้ 32 ล้านต้น นั่นคือพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งหมด

ส่วนกรีน โลจิสติกส์ WHA ทำ end to end eco system ที่สร้างขึ้นมาเป็น 2 ส่วนคือ ทำ ev ฟีด เซอร์วิส และ ev ชาร์จจิง เซอร์วิส เพราะการที่บริษัทมีคลังสินค้าให้เช่ามหาศาลมาก ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนด้วยการติดตั้งโซลาร์บนหลังคา มีการจ่ายไฟเข้าชาร์จเจอร์ และการสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเพื่อควบคุมระบบการ คือ mobilix software solution ซึ่งเป็นระบบของ WHA เอง ทำขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็น SME รายย่อย และส่วนหนึ่งที่ต้องการให้เปลี่ยนมาใช้รถ EV เพราะ ถ้าทดลองแล้ว สำหรับการใช้รถ EV เพื่อการพาณิชย์วันละ 1,000 กม. จะลดต้นทุนได้เดือนละ 35,000 บาทต่อคัน ซึ่งสูงมาก แม้ว่าฟิกซ์คอสของรถ EV สูงกว่ารถที่ใช้ในปัจจุบัน แต่การดูแลสภาพต่างๆ และอื่นๆ ของรถจะถูกกว่า

ดังนั้น WHA จึงทำการปล่อยเช่ารถให้กลุ่มโลจิสติกส์ให้กลุ่มลูกค้าในนิคม อีกทั้งมีแผนทำ OEM กับลูกค้าในนิคมของตนเอง จะให้เช่าระยะยาว หรือบางแบรนด์ยังไม่เข้ามา จะนำเข้าจากจีน พร้อมกับนำระบบซอฟต์แวร์ของ WHA เพื่อควบคุมการเดินทางเพื่อช่วยลดต้นทุนของผู้ใช้ได้ และการเตือนแบตเตอรี่และการบอกจุดชาร์จแบตเตอรี่ และสามารถจองล่วงหน้าได้ด้วย รวมทั้งการขับรถของคนขับจะมีผลต่อการใช้งานของแบตเตอรี่ด้วย ซึ่งจะลิงก์กันได้หมด อันจะทำให้ลดต้นทุนได้มาก โดย WHA ปรับมาหลายปีแล้วเป็น smart eco ในนิคมของ WHA

นอกจากนี้ แผนการนำ P2P energy and carbon trading คือการทำเทคโนโลยี บนบล็อกเชนการเทรดด้านพลังงาน เพราะ WHA ต้องการมีลูกค้าในนิคมเทรดพลังงานกันได้ รวมถึงการต่อแพลตฟอร์มนี้ให้สามารถเทรดพลังงานได้ หลังจากนี้ต้องมาดูกันว่าจะสามารถนำไปขายในระดับนานาชาติได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังติดอีกหลายเรื่องขึ้นมา

น.ส.จรีพร กล่าวถึงช่วงที่ผ่านมา WHA ได้รับรางวัลมากมาย และอีกหนึ่งเป้าหมายคือการไปสู่ net zero ภายในปี 2050 แม้ว่าไม่ได้ปล่อยคาร์บอนสูง แต่มีการวางแผนลดตามเป้าหมายตามการใช้พลังงานสะอาดคือโซลาร์ลดการใช้คาร์บอนในปี 2030 ให้ได้ 42% และให้ได้ตามเป้า net zero ในปี 2050

“การลดการปลดปล่อยคาร์บอน การใส่ใจกับ ESG และ และ Sustainable หลายคนชอบคิดว่าเป็นต้นทุน แต่ WHA มองว่าจะเเกิดการลงทุนใหม่ๆ และสร้างรายได้ใหม่เข้ามาเพิ่ม กรีน โลจิสติกส์และโซลาร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งถ้า WHA สร้างตามแผนได้ หมายถึงในปี 2029 พลังงานสะอาดของเราแตะ 1,200 เมกะวัตต์ จะสร้างรายได้ถึง 5,600 ล้านบาท และลดค่าไฟให้ลูกค้าเราได้ 1,860 ล้านบาทต่อปี จากสิ่งที่ WHA ปรับเปลี่ยนทำให้ลูกค้าของบริษัทตื่นตัวมาก ตื่นตัวติดตั้งโซลาร์ เพราะแผนการทำกรีน ทารีฟ ต้นทุนแพงมาก 4.50 บาทเพราะต้นทุนโซลาร์แค่ 2 บาทกว่า ซึ่งสูงมากลูกค้ารับไม่ไหว ซึ่งในเรื่องพลังงานนี้ต้องหารือกับรัฐเพื่อหาวิธีการลดต้นทุนพลังงานให้ต่ำและผู้ประกอบการรับได้”

โดยสรุป WHA มีเป้าหมายจะลดการใช้น้ำจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด พร้อมกับเพิ่มมูลค่าน้ำจากการบำบัดแล้วขายกลับให้ลูกค้า และปี 2029 WHA จะลดการใช้น้ำจากธรรมชาติให้ได้ปีละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี รวมทั้งการนำขยะมารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์และส่วนหนึ่งคือช่วยเหลือชุมชนด้วย

ที่มา : MgrOnline