THG พบรายการน่าสงสัยเพิ่มเติม 63 ล้านบาท เตรียมส่ง ก.ล.ต.เอาผิดอดีตผู้บริหาร
เผยแพร่ : 26 พ.ย. 2567 09:20:02
• รายการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับอดีตผู้บริหาร
• THG เตรียมส่งเรื่องให้ ก.ล.ต. ดำเนินการเอาผิดอดีตผู้บริหาร
บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ยืนยันว่า บริษัทไม่เคยลงทุน และไม่เคยถือหุ้นในบริษัท ธนบุรี โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท โรงพยาบาล ธนบุรี โฮลดิ้ง จำกัด แต่อย่างใด บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนรู้เห็นใดๆ ในการดำเนินการหรือการออกหลักทรัพย์ใดๆ ทั้งสิ้น
ปัจจุบันหุ้นกู้ที่ออกโดยกลุ่มบริษัทมีเพียง 2 ชุด ได้แก่
- หุ้นกู้ ชุดที่ 1 (ครั้งที่ 1/2567) บริษัทเป็นผู้ออก ประเภทหุ้นกู้แบบมีผู้ค้ำประกัน วงเงิน 700 ล้านบาท วันที่ออก 27 พฤษภาคม 2567 และวันครบกำหนด 28 พฤษภาคม 2570
- หุ้นกู้ ชุดที่ 2 (ครั้งที่ 1/2567) บริษัทเป็นผู้ออก ประเภทหุ้นกู้แบบมีผู้ค้ำประกัน วงเงิน 1,000 ล้านบาท วันที่ออก 27 พฤษภาคม 2567 และวันครบกำหนด 28 พฤษภาคม 2572
ส่วนเงินลงทุนของบริษัทในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมต่างๆ ได้รับการเปิดเผยไว้ในงบการเงินและรายงานประจำปีของบริษัทมาโดยตลอด โดยในข้อมูลดังกล่าวไม่เคยปรากฏชื่อบริษัท ธนบุรี โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท โรงพยาบาล ธนบุรี โฮลดิ้ง จำกัด แต่อย่างใด
*พบรายการน่าสงสัยเพิ่มเติม 63 ล้านบาท เตรียมส่ง ก.ล.ต.
นอกจากนี้ THG ชี้แจงความคืบหน้าของรายการอันควรสงสัยที่ได้แจ้งไว้ว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการตรวจพบรายการอันควรสงสัย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 105,000,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) บริษัทแจ้งว่า บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด (RTD) (ครอบครัววนาสินถือหุ้น 40%) ซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์จากรายการอันควรสงสัย ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้กับบริษัทเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 112,798,907 บาท (รวมดอกเบี้ย ซึ่งคำนวณจนถึงวันที่ทำหนังสือรับสภาพหนี้)
บริษัทจะใช้หนังสือรับสภาพหนี้เป็นหลักฐานในการเรียกร้องให้ RTD ชำระเงินให้แก่บริษัท โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีกับ RTD ตามหนังสือรับสภาพหนี้ และกับอดีตผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญกับการทำรายการอันควรสงสัย ทั้งนี้ เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัท และผู้ถือหุ้น
ส่วนการตรวจพบรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติม บริษัทพบรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติมของบริษัท และบริษัทย่อย ซึ่งรายการดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2566 รายการอันควรสงสัยดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางการเงินแก่บริษัท และบริษัทย่อย รวมมูลค่าทั้งสิ้น 63 ล้านบาท อย่างไรก็ดี มูลค่าความเสียหายดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินหรือความสามารถ ในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบได้ดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมของบริษัท และบริษัทย่อยสำคัญในช่วงปี 2566-2567 ที่ผ่านมาอย่างรอบคอบ และมีความเห็นว่านอกเหนือจากรายการอันควรสงสัยดังกล่าวแล้ว ไม่มีรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติมใดๆ ของบริษัท และบริษัทย่อยที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย หรือพิจารณาเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัท และผู้ถือหุ้น บริษัทจะดำเนินการแจ้งเรื่องดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และดำเนินการทางกฎหมายต่ออดีตผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญกับการกระทำที่เป็นเหตุให้เกิดรายการอันควรสงสัยดังกล่าว เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของบริษัท และผู้ถือหุ้น
*ตั้งสำรองรายการน่าสงสัย 172 ล้านบาทใน Q3/67 แล้ว
ความเสียหายทางการเงินที่เกิดขึ้นกับบริษัท และบริษัทย่อยจากรายการอันควรสงสัยทั้งหมดนั้น บริษัทได้บันทึกบัญชีโดยตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนในงบการเงินรวม สำหรับไตรมาสที่ 3/67 แล้ว เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 172 ล้านบาท ทั้งนี้ การตั้งสารองดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้งบการเงินรวมของบริษัทสะท้อนถึงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานที่แท้จริง รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
ความเสียหายทางการเงินที่เกิดขึ้นกับบริษัท และบริษัทย่อยจากรายการอันควรสงสัยทั้งหมดนั้น มีสาเหตุมาจากเหตุการณ์ในอดีตทั้งสิ้น ซึ่งบริษัทได้เพิ่มความเข้มงวดรัดกุมในการอนุมัติรายการ รวมถึงรายการที่เกี่ยวโยงกัน และเพิ่มการตรวจสอบภายในให้ครอบคลุมมากขึ้น และให้มีการรายงานจากบริษัทย่อยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยกระดับมาตรฐานการกากับดูแลของบริษัท และบริษัทย่อย และป้องกันไม่ให้เกิดรายการอันควรสงสัยเพิ่มเติมในอนาคต
*ดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหาร-พนักงานให้ชดใช้ความเสียหาย
นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินการลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดต่ออดีตผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญกับรายการดังกล่าว เพื่อแสดงถึงจุดยืนที่ชัดเจนของบริษัทในการไม่ยอมรับพฤติกรรมหรือการปฏิบัติใดๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และ/หรือระเบียบภายในที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย ทั้งนี้ บริษัทยังจะดำเนินการทางกฎหมายกับอดีตผู้บริหารและพนักงานดังกล่าวด้วยเช่นกัน เพื่อให้มีการชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บริษัท และบริษัทย่อยที่เกี่ยวข้อง อันเป็นส่วนหนึ่งของการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท และผู้ถือหุ้น
รายการอันควรสงสัยทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น แม้จะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท แต่อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียต่อกลุ่มบริษัท อย่างไรก็ตาม ในแง่ของผลประกอบการจากการดำเนินงานตามปกติ (ไม่รวมการบันทึกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามหลักความระมัดระวังและสอดคล้องกับหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป) กลุ่มบริษัทยังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตามปกติ และไม่ได้ประสบภาวะขาดทุนจากการดำเนินงานตามปกติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย และเพื่อแก้ไขข้อกังวลที่อาจจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้มีการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของบริษัท ซึ่งแนวทางการปรับโครงสร้างทางการเงินที่กำลังพิจารณารวมถึงการพิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท เพื่อเสริมสร้างฐานะทางการเงินและรองรับการดำเนินงานในอนาคต และการพิจารณาจัดการหรือจำหน่ายสินทรัพย์บางประเภทที่ไม่ได้ใช้ในการประกอบธุรกิจหลัก เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท
ที่มา : MgrOnline