“ปานเทพ” แฉความจริง เอกสารปริศนา “ทนายสายหยุด” ตัดสินใจยุติบทบาท คดี “ทนายตั้ม” ชมยึดมั่นในธรรม ไม่ทิ้งเพื่อน แม้จุดยืนต่างกัน

เผยแพร่ : 25 พ.ย. 2567 18:43:04
X
• ทนายสายหยุดยุติหน้าที่แล้ว
• ปานเทพ ชื่นชมทนายสายหยุดที่ไม่ยอมปลอมแปลงเอกสาร
• ชะตาคดีขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานทั้งหมด

"ปานเทพ" เผยเบื้องหลังเอกสารสำคัญในคดี "ทนายตั้ม" หลัง "ทนายสายหยุด" ยุติหน้าที่ ชื่นชมธรรมในใจของ "ทนายสายหยุด" ที่ไม่ยอมนำเอกสารที่ถูกปลอมแปลงเข้าสำนวน พร้อมชี้ชะตาคดีขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานล้วนๆ

วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีทนายตั้ม หลังจากทนายสายหยุด ได้แถลงข่าวยุติการทำหน้าที่ทนายให้ทนายตั้ม

นายปานเทพ ระบุว่า วันนี้ได้รับชมในรายการโหนกระแส ถึงทนายสายหยุด และทนายอาคม ซึ่งชัดเจนว่าทนายสายหยุด ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นทนายให้กับทนายตั้ม ในเรื่องนี้มีการกล่าวถึงสิ่งที่ตนเองนำเสนอไปว่าเป็นการดักคอ ในเรื่องของการยื่นเอกสาร ว่าเอกสารที่เตรียมยื่นให้ตำรวจ ซึ่งทนายสายหยุดอ้างว่ายังไม่ได้ยื่น มีความแตกต่างจากเอกสารที่ตนเองนำเสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งขอยืนยันว่าเอกสารที่ถืออยู่ในมือ มีเนื้อหาสาระตรงกัน ระหว่างผู้รับจ้างและผู้ว่าจ้าง

และรายการที่สอง ที่ทนายอาคมคิดว่าเอกสารทั้งหลายเหมือนกันหรือไม่ ยืนยันว่าเอกสารผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างเหมือนกัน และมีหลักฐานการส่งไฟล์ PDF หรือไฟล์ที่ส่งไปให้คู่สัญญาจากทนายตั้มเป็นเอกสารชุดเดียวกัน ดังนั้นเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้

การที่ถามเรื่องเอกสาร เป็นกลยุทธ์ที่ตนวางเอาไว้ หนึ่งคือไม่เปิดเผยสัญญานี้ เพื่อจะรอดูว่ามีการยื่นหรือไม่ โดยนับจากวันที่ทนายตั้มถูกจับประมาณเกือบ 15 วัน จึงสันนิษฐานว่าอาจจะมีการยื่นแล้ว จากนั้นทนายสายหยุด ได้ออกอากาศต่อเนื่องอีกสองวันในหลายหลายรายการ จึงมาพบถ้อยคำอาจมีสัญญาเกิดขึ้นระหว่างทนายตั้ม กับบริษัทอีโนไฟท์ ซึ่งนายปานเทพไม่ทราบเรื่องนี้ ดังนั้นจึงรอเวลาว่าใกล้เคียง 15 วัน เพี่งรอดูว่ามีการรับเอกสารหรือไม่

โดยก่อนหน้านี้ ทนายสายหยุด มีการคุยเอาไว้ว่ามีการเตรียมเอกสารเป็นแฟ้มในกระเป๋าเดินทาง มีการเตรียมไว้แล้ว อ้างว่าไปอยู่ในสถานีตำรวจหลายชั่วโมง เตรียมความพร้อมเอกสารจำนวนมาก ตกลงแล้วเอกสารยื่นหรือยังกันแน่ แต่ท้ายสุดไม่ได้ยี่น ซึ่งก็ตรงกับที่ทนายสายหยุดออกมายอมรับว่าถูกดักคอ

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า เอกสารที่อ้างว่าเตรียมจะยื่น มันไม่เหมือนข้อความของเอกสารฉบับนี้ และไม่มีลายเซ็นคู่สัญญา แสดงว่าต้องมีคนเตรียมให้ คำถามคือใครเตรียมให้ด้วยเหตุผลอะไร

อย่างไรก็ตาม การแถลงของทนายสายหยุดในวันนี้ และทนายอาคมเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีของผู้เสียหาย เป็นหลักฐานทั้งหมดของพฤติการณ์ของทนายตั้มในช่วงเวลานี้

ส่วนที่มีการยื่นข้อเสนอในการนำบ้านของคุณเดือน ซึ่งเป็นภรรยาของทนายตั้ม เพื่อประกันตัวภรรยาทนายตั้ม แต่ฝั่งทนายตั้ม ไม่ยินยอม โดยอ้างว่าจากบ้านมีมูลค่า 43 ล้านบาท เกรงว่าถ้าประกันตัวให้ภรรยาแล้ว ตัวเองจะไม่ได้รับการประกันตัว เพราะไม่รู้จะหาหลักทรัพย์อะไร ซึ่งจะเห็นท้ายสุดแล้วทนายตั้มก็เห็นแก่ประโยชน์ตัวเองมากกว่า

คำถามนี้มีข้อสังเกตคือบ้านในราคา 43 ล้านบาทมันสามารถเป็นหลักทรัพย์ยื่นต่อศาลได้หรือไม่ ใน โดยหลักการสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นบ้านอยู่ในขณะนี้ ปัจจุบันถูกอายัด ในมูลฐานความผิดฐานฟอกเงิน ดังนั้นหลักทรัพย์จึงจะเป็นของกลาง ไม่ใช่ของภรรยาทนายตั้ม ไม่อาจจะทำทุรกรรมอย่างอื่นได้เพราะฉะนั้นโอกาสจะนำหลักทรัพย์อื่นที่ได้มา และมาเป็นหลักทรัพย์ และประกันตัว อาจจะไม่ได้ยกเว้นการสารภาพ พร้อมที่จะคืนทรัพย์สินอันนั้นอาจเป็นไปได้

ถือว่าในขณะนี้ สิ่งที่รู้สึกยินดี คือมองคนไม่ผิด คือ ทนายสายหยุด มีธรรมในใจ วันนี้แม้จะดูเหมือนว่าทนายอาคม และทนายสายหยุดมาเปิดโปงทนายษิทราในทางสาธารณะ ซึ่งปกติไม่ทำกัน แต่ว่าเรื่องนี้ หลายคนต้องให้ความเห็นใจต่อทนายทั้งสองคนด้วย เพราะเขาต้องอธิบายเหตุจำเป็นที่จะต้องยุติ ตนคิดว่าเรื่องนี้ ให้ความเป็นธรรมกับทนายทั้งสอง

ส่วนที่บอกว่ามองคนไม่ผิด ทนายสายหยุด มีธรรมในใจ เพราะตั้งแต่แรก ที่ทนายสายหยุดทำ คือ การหาหนทางเพื่อหาหลักทรัพย์คืนพี่อ้อยเป็นหลัก จึงเป็นหนทางในการเจรจาให้ยอมรับผิด ซึ่งต่างจากทนายตั้มอย่างชัดเจน ประการที่สอง ทนายสายหยุด ก็ไม่ได้ทิ้งเพื่อน และทนายสายหยุด ก็ไม่ได้เอาเอกสารที่ล่อแหลมเป็นเอกสารเป็นเท็จ เข้าสู่สำนวน เพราะถ้ามีการกระทำความผิดไปแล้ว อาจจะคลี่คลายแก้ไขไม่ได้ ซึ่งหากยังฝืนนำเข้าสำนวนต่อ ผู้เสียหายจะฟ้องทนายทุกคน หากมีการนำเอกสารที่ปลอมแปลงเข้าสำนวน แล้วหวังว่าทนายใครก็ตามที่รับงานหลังจากนี้ต้องดูเอกสารให้ดี

"ส่วนใครจะเป็นทนายคนต่อไป ก็เป็นเรื่องของทนายตั้ม ไม่ว่าจะเป็นทนายเดชาก็ดี รวมถึงทนายเกิดผล ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าไปเยี่ยม และมีการเตรียมใบแต่งทนายมาด้วย ตนเองเชื่อว่าวันนั้นน่าจะรู้อยู่แล้วว่าทนายสายหยุดจะยุติบทบาท ซึ่งในส่วนผู้เสียหายไม่ได้กังวล ทนายคนไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายสู้กันที่พยานหลักฐานเท่านั้น " นายปานเทพกล่าว

ส่วนจะแนะนำทนายที่จะมาว่าความให้ทนายตั้มต่ออย่างไรบ้าง ทางนายปานเทพบอกว่า ตนเชื่อว่าคนเราคนที่มีกรรม จะไม่เห็นหนทางสว่างในการแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ และต้องนำไปสู่การรับผลแห่งกรรมนั้น ณ ขณะนี้ คนรอบข้างทนายตั้มเดือดร้อนไปหมด ทั้งภรรยา พี่ภรรยา คนขับรถสองคนและลูกๆ ที่ยังไม่มีพ่อแม่ดูแล ก็ล้วนแล้วแต่มาจากการตัดสินใจของทนายตั้มเพียงคนเดียว พร้อมแนะนำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทนายแล้ว ทนายนายเก่งแค่ไหน ไม่สามารถปฏิเสธพยานหลักฐานได้ เหลือเพียงข้อเดียวคือคนในครอบครัวถ้าอยากให้สถานการณ์มันดีขึ้นกว่านี้ คือการพูดความจริงกับตั้ม ให้รีบรับสารภาพ และคืนทรัพย์สินให้เร็วที่สุด หรือการอภัยอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก แต่รูปคดีบทลงโทษจะลดลงทันที

ทั้งนี้ตนเองกับทนายสายหยุด ไม่เคยคุยกันเลย มีแต่เคยมีการสนทนาผ่านทางแฟนเพจ ส่วนตัวไม่ได้มีข้อพิพาทกัน ในทางตรงกันข้ามยังชื่นชมบทบาทเขา

สำหรับเอกสารฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารที่ทำขึ้นระหว่างมี่ กับ เตอร์ ที่ทำแอปพลิเคชั่นหวยออนไลน์ รายละเอียดของสัญญาแผ่นที่สองมีการเว้นช่องว่างเอาไว้ ทั้งที่มันสามารถใส่ได้แน่นอนในเอกสารชิ้นนี้ แต่เขาเป็นฝ่ายขอให้ปรับเลื่อนลงมาแล้วให้เอกสารแยกแผ่น ระหว่างผู้รับจ้าง กับผู้ว่าจ้าง เพื่อแก้ไขข้างหน้าได้

โดยเอกสารที่ทนายสายหยุด ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 เอกสารที่นายปานเทพมีคือ 3 กุมภาพันธ์ 2566 แต่เซ็นถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เขาก็ทำเอกสารชิ้นใหม่ เพื่อให้สอดรับกับเวลา โดยเค้าลืมไปว่าเอกสารทั้งคู่ได้ส่งไฟล์ PDF ที่เซ็นแล้ว ส่งให้คู่สัญญา

ส่วนตัวเชื่อว่า สิ่งที่ทนายตั้มพยามจะดัดแปลงข้อความในสัญญา อยู่ที่ ข้อที่หนึ่ง โดยการตัดเรื่องของเงิน 2 ล้านยูโรทิ้งหรือไม่






ที่มา : MgrOnline