“หมอวรงค์” สวนกลับ “นพดล” ถ้า MOU44 ไม่ยอมรับเส้นของกัมพูชาก็ต้องไม่มีพื้นที่ทับซ้อน ซัดเรียนสูงถ้าเป็นขี้ข้าก็ติดคุกเยอะแยะ

เผยแพร่ : 23 พ.ย. 2567 20:16:58
X
• นพ.วรงค์ เห็นว่า ควรตีความ MOU ปี 44 อย่างรอบคอบ และหากไม่ยอมรับเส้นเขตแดนของกัมพูชา พื้นที่ทับซ้อนก็ไม่ควรเกิดขึ้น
• นพ.วรงค์ ระบุว่า ไทยลากเส้นเขตแดนตามหลักกฎหมาย แต่กัมพูชามักลากเส้นตามอำเภอใจ จึงไม่ควรไปเจรจากับการอ้างสิทธิ์เช่นนี้

“หมอวรงค์” โต้กลับ “นพดล” ใสซื่อ เหมือน “อุ๊งอิ๊ง” บอก MOU44 ไม่ยอมรับเส้นของกัมพูชา แนะใช้สติตีความดีๆ ถ้าไม่ยอมรับต้องไม่เกิดพื้นทีทับซ้อน ย้ำ ไทยลากเส้นตามหลักกฎหมาย แต่เขมรลากตามอำเภอใจ จะไปยอมเจรจาการอ้างสิทธิแบบนี้ทำไม ส่วนที่อ้างว่าการเจรจาตาม MOU ไม่มีผลต่อเขตแดน ก็เท่ากับว่า เขมรยังอ้างสิทธิได้เหมือนเดิม ซัดอย่าอ้างว่าเรียนจบสูง ถ้าทำตัวเป็นขี้ข้าก็ติดคุกมาเยอะแยะ

วันนี้ (23 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom” ระบุว่า #ถึงนายนพดลอีกครั้งช่วยใช้สติอ่านด้วยหมอจะสอนกฎหมายคุณ

นายนพดล ได้ออกมาโต้ผมอีกแล้วครับ ผมขอชี้แจงทุกประเด็น ที่เกี่ยวข้องกับ MOU44 ที่นายนพดลโต้ผม ผมจะขอคัดลอกข้อความจาก MOU มาชี้แจงคุณ

1. นายนพดล กล่าวว่า ไม่มีเนื้อหาของ MOU 44 ตอนใดเลยที่ไปยอมรับเส้นที่กัมพูชาประกาศ

ประเด็นนี้ผมคิดว่า นายนพดล ช่างดูซื่อ เหมือนอุ๊งอิ๊งจริงๆ แม้ในตัวอักษร 5 ข้อของ MOU44 จะไม่มีข้อความระบุโดยตรง เรื่องเส้นเขตแดนทางทะเลของเขมร นายนพดล ต้องใช้สติ อ่าน MOU44 และตีความดีๆ

อย่าลืมนะครับว่า แผนที่แนบท้ายที่ประกอบเป็นพื้นที่ทับซ้อน 26,000 ตร.กม. ต้องประกอบด้วยเส้นอ้างสิทธิของไทย และเส้นอ้างสิทธิของเขมรที่ผ่านเกาะกูด จึงเกิดพื้นที่ทับซ้อน ตามแผนที่แนบท้าย

ใน MOU44 ข้อ 2(ก) จัดทำความตกลงสำหรับการพัฒนาร่วมทรัพยากรปิโตรเลียมซึ่งอยู่ในพื้นที่พัฒนาร่วมดังปรากฏตามเอกสารแนบท้าย (ส่วนล่าง 16,000 ตร.กม.)

ข้อ 2(ข) ตกลงแบ่งเขต ซึ่งสามารถยอมรับได้ร่วมกัน สำหรับทะเลอาณาเขต ไหล่ทวีป และเขตเศรษฐกิจเฉพาะ ในพื้นที่ที่ต้องแบ่งเขต ดังปรากฏตามเอกสารแนบท้าย (ส่วนบน 10,000 ตร.กม.)

ถ้า นายนพดล ใช้สติ คิด วิเคราะห์จะรับรู้ได้เลยว่า ใน MOU44 ได้ยอมรับความมีอยู่จริงของเส้นที่ทางกัมพูชาประกาศ จึงประกอบเป็นพื้นที่ทับซ้อน ในแผนที่แนบท้าย และเขียนระบุภารกิจชัดเจนในข้อ 2 ก.และ ข. ท่านจะปฏิเสธอีกไหมว่า ไทยไม่ยอมรับเส้นของกัมพูชา

2. นายนพดล กล่าวว่า หมอวรงค์ต้องอ่านให้เข้าใจว่า แผนผังแนบท้าย MOU44 ยังสะท้อนเส้น 2 เส้นที่กัมพูชาประกาศฝ่ายเดียว และเส้นที่ไทยประกาศ มันคือการสะท้อนการอ้างสิทธิสูงสุด ของทั้งสองฝ่ายเพื่อใช้ในการเจรจา ไม่ใช่เท่ากับว่าไทยไปยอมรับ เส้นของกัมพูชา ถ้าตีความว่าแผนผังนั้นเท่ากับไทยยอมรับเส้นกัมพูชา มันก็ต้องตีความในทำนองเดียวกันว่า กัมพูชายอมรับเส้นที่ไทยยึดถือด้วยใช่หรือไม่

ผมขอตอบ นายนพดล ว่า ผมอ่านเข้าใจดีแล้วครับ ผมจะต้องอธิบายให้นายนพดลได้เข้าใจด้วยว่า การอ้างสิทธิสูงสุดของแต่ละฝ่าย ต่างฝ่ายต่างต้องยอมรับซึ่งกันและกัน จึงนำมาประกอบเป็นแผนที่แนบท้ายได้ หรือท่านจะปฏิเสธอีกว่าไม่ยอมรับเส้นเขมร

ไทยยอมรับเส้นของเขมร ในมุมกลับ เขมรก็ยอมรับเส้นของไทยด้วย จุดสำคัญที่ นายนพดล ต้องรับทราบคือ เส้นอ้างสิทธิ์ของไทยเรา เป็นการลากที่มีหลักกฎหมายระหว่างประเทศอ้างอิง ในขณะที่เขมรลากแบบตามอำเภอใจ ไม่มีหลักกฎหมายระหว่างประเทศใดๆ เราจะไปยอมรับเจรจา กับการอ้างสิทธิ์แบบนี้หรือ

การลากเส้นเขตแดนทางทะเล อ้อมผ่านเกาะของอีกประเทศหนึ่ง มีประเทศไหนในโลกนี้ ที่เขายอมรับ มีแต่ประเทศไทยและเขมรเท่านั้น ที่ยอมรับซึ่งกันและกัน ไทยเราจึงมีแต่เสียเปรียบ ดังนั้นจะเอาเส้นของไทย ไปเปรียบกับเส้นของเขมรไม่ได้

3. นายนพดล กล่าวว่า ฝ่ายไทยไม่เคยมีการกระทำหรือพฤติกรรมไปยอมรับเส้นของกัมพูชา

ผมขอตอบคุณว่า ข้อนี้คุณพูดวนเวียนซ้ำซาก พูดเลียนแบบอุ๊งอิ๊งอีกแล้ว ผมให้กลับไปอ่านข้อ 1 และข้อ 2

4. นายนพดล กล่าวว่า เนื้อหาในข้อ 5 ของ MOU44 ระบุไว้ชัดเจนว่า ตราบใดที่ยังไม่มีข้อตกลงเรื่องการแบ่งเขตทางทะเลให้ถือว่า เนื้อหา MOU44 และการเจรจาตาม MOU จะไม่มีผลกระทบต่อการอ้างสิทธิ์ทางทะเลของทั้งไทยและกัมพูชา
ในประเด็นนี้กรมสนธิสัญญาและกฎหมายก็แถลงไปแล้วว่า MOU ไม่ได้ยอมรับเส้นของกัมพูชา

ผมขอชี้แจงว่า ผมคิดว่าที่นายนพดล อ้างข้อ 5 ของ MOU 44 คุณก็อ้างมาไม่ถูกต้อง ทำให้คนเข้าใจผิดได้ ผมอยากให้คุณลองอ่านข้อ 5 จริงๆ เปรียบเทียบกับที่คุณเขียน เนื้อหามันคนละเรื่องเลย ลองอ่านของจริงตามนี้ครับ

ข้อ 5 ของ MOU 44 ระบุว่า ภายใต้เงื่อนไขการมีผลใช้บังคับของการแบ่งเขตสำหรับการอ้างสิทธิ์ทางทะเล ของภาคีผู้ทำสัญญา ในพื้นที่ที่ต้องมีการแบ่งเขต บันทึกความเข้าใจนี้ และการดำเนินการทั้งหลายตามบันทึกความเข้าใจนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อการอ้างสิทธิ์ทางทะเล ของแต่ละภาคีผู้ทำสัญญา

เนื้อหาจริงๆ คือ ไม่ว่าคุณจะเจรจาแบ่งเขตทางทะเลอย่างไร ก็ไม่มีผลกระทบต่อการอ้างสิทธิทางทะเลของแต่ละประเทศ เท่ากับว่าคุ้มครองให้เขมรอ้างสิทธิ์เส้นแบ่งเขตทางทะเลที่ลากผ่านเกาะกูดได้ตลอดไป หรือคุณจะเถียงผม

ส่วนที่คุณอ้างว่า กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย แถลงไปแล้วว่า MOU ไม่ได้ยอมรับเส้นของเขมร ผมเข้าใจว่า เขาเป็นข้าราชการ อนาคตเขาคงไม่ต่างจากโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์

ส่วนที่คุณจะอ้างว่า คุณจบกฎหมายจากออกซฟอร์ดและจบเนติบัณทิตไทย และเนติบัณทิตอังกฤษ ผมขี้เกียจเถียงกับคุณ เพราะผมเห็นคนเรียนสูงๆ คุณวุฒิดีๆ ไม่มีหลักประกันว่าขายชาติหรือไม่ ถ้าทำตัวเป็นขี้ข้า สุดท้ายติดคุกเยอะแยะไปหมด

ที่มา : MgrOnline