"สี จิ้นผิง" ประกาศพร้อมทำงานร่วมกับ "ทรัมป์" หลังพบไบเดนในเปรู
เผยแพร่ : 17 พ.ย. 2567 07:34:24
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า เขาพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ที่นำโดยประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้ง "โดนัลด์ ทรัมป์" ในขณะที่เขาได้ประชุมครั้งสุดท้ายกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง โดยหารือในประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น อาชญากรรมไซเบอร์ การค้า ไต้หวัน และรัสเซีย
ไบเดนและสีใช้เวลาประชุมราว 2 ชั่วโมงที่โรงแรมที่ผู้นำจีนพักอยู่ ระหว่างการประชุมเวทีเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู
สีกล่าวว่า เป้าหมายของจีนคือการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ให้มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลังการเลือกตั้ง พร้อมยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีทั้งขึ้นและลง "จีนพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ เพื่อรักษาการสื่อสาร ขยายความร่วมมือ และบริหารจัดการความแตกต่าง"
ไบเดนตอบกลับว่า ผู้นำทั้งสองอาจไม่ได้เห็นตรงกันเสมอไป แต่การพูดคุยนั้นตรงไปตรงมาและเปิดเผย
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งอีกครั้งในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยทรัมป์เคยให้คำมั่นที่จะเรียกเก็บภาษี 60% กับสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งจีนคัดค้านอย่างหนัก นอกจากนี้ ทีมทรัมป์ยังมีแผนแต่งตั้งบุคคลที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีน เช่น วุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ และไมค์ วอลซ์ เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ
ในขณะเดียวกัน ไบเดนพยายามลดความตึงเครียดกับจีน แต่สหรัฐฯ ยังคงไม่พอใจต่อการโจมตีไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับจีน และการเพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวัน รวมถึงการสนับสนุนของจีนต่อรัสเซีย
ประธานาธิบดีไต้หวัน ไบ่ ชิงเต๋อ มีแผนเยือนรัฐฮาวายและอาจรวมถึงกวมในอนาคตอันใกล้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้จีนไม่พอใจ ในขณะที่หลิน ซินอี้ อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจไต้หวัน ได้พบกับไบเดนที่เอเปกเมื่อวันศุกร์และเชิญให้เขาเยือนไต้หวัน
เศรษฐกิจจีนกำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการของไบเดน เช่น ข้อจำกัดด้านการลงทุนของสหรัฐฯ ในเทคโนโลยี AI ควอนตัมคอมพิวติ้ง และชิปขั้นสูง ทั้งหมดนี้เป็นหัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้
สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า "เมื่อสองประเทศปฏิบัติต่อกันในฐานะเพื่อนและหุ้นส่วน ความสัมพันธ์จะก้าวหน้าไปได้ไกล แต่หากแข่งขันหรือเป็นปฏิปักษ์กัน จะส่งผลลบต่อความสัมพันธ์อย่างร้ายแรง"
ในขณะเดียวกัน สีเริ่มการทูตในละตินอเมริกาด้วยการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่กับเปรู และเปิดท่าเรือน้ำลึก Chancay ก่อนจะเยือนบราซิลในสัปดาห์หน้า จีนยังประกาศแผนเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC ในปี 2026
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลว่าจีนอาจกำลังมองหาการสร้างฐานข่าวกรองใกล้ภูมิภาคสหรัฐฯ แต่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยสื่อที่สนับสนุนรัฐบาลจีนระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการให้ร้าย
ที่มา สำนักข่าวรอยเตอร์/ภาพเอเอฟพี
ที่มา : MgrOnline