คนขาณุฯตกใจแทบทั้งอำเภอ!ไม่เคยรู้สำนักสงฆ์หูทิพย์ตาทิพย์ฝังคนตายมากขนาดนี้ ชาวอุดรฯงงศพหลานสาวโผล่ด้วย
เผยแพร่ : 22 พ.ย. 2567 15:16:08
• สำนักสงฆ์ดังกล่าวสอนเกี่ยวกับลัทธิประหลาด เช่น หูทิพย์ ตาทิพย์
• ตำรวจเร่งติดต่อญาติเพื่อรับศพ
• ในจำนวน 11 ศพ มีศพหลานสาวชาวอุดรธานี ที่ครอบครัวคิดว่าเสียชีวิตที่กรุงเทพฯ รวมอยู่ด้วย
• เหตุการณ์สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่
กำแพงเพชร – คนขาณุวรลักษบุรี ตกใจกันทั่ว ไม่คิดว่าเจอศพฝังมากขนาดนี้..ตำรวจเร่งติดต่อญาติรับ 11 ศพถูกฝังสำนักสงฆ์ฯลัทธิประหลาดสอนหูทิพย์ตาทิพย์ ขณะที่ครอบครัวชาวอุดรฯเป็นงง หลังพบศพหลานสาวไปทำงาน-เสียชีวิตอยู่ กทม.โผล่เป็น 1 ใน 11 ศพด้วย ทั้งที่พี่น้องสายตรงไม่เคยเป็นศิษย์
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำแพงเพชร และส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าขุดศพในลัทธิประหลาดสอนหูตาทิพย์ ภายในสำนักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ ม.2 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 20 พ.ย.เป็นต้นมา กระทั่งได้ยุติลงในเวลาประมาณ 18.00 น.วันเดียวกัน ซึ่งจากการขุดค้นหา 17 หลุม พบ 12 ศพ
ต่อมา(21 พ.ย.) ได้มีการลำเลียงศพไปเก็บที่สุสานมังกรทอง อ.โกสัมพีนคร เพื่อรอตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์และรอญาติติดต่อรับกลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจ จำนวน 11 ศพ เหลือศพพระเจ้าอาวาสฯที่ยังคงให้บรรจุในโลงภายในสำนักสงดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้(22 พ.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เจ้าของคดี ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ขณะนี้ทางตำรวจติดต่อญาติได้ทั้งหมด 4 ราย และมีเพียง 3 ราย เข้ามายืนยันและเก็บตัวอย่าง DNA เพื่อส่งตรวจที่จังหวัดลำปาง ซึ่งหลังจากนี้ผลการตรวจตรงกันกับญาติออกก็จะให้รับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ศพที่มาบริจาคก็เป็นคณะลูกศิษย์ ซึ่งก็มีใบอนุญาตมอบศพถูกต้อง แต่ถ้าตรวจสอบญาติทั้งหมดแล้ว หากพบว่ามีการนำศพมาอย่างไม่ถูกต้อง อาจต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยตำรวจอยากให้ญาติรีบเข้ามาติดต่อเพื่อรับศพไปจัดการให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้หลังจากมีภาพข่าวออกไปเมื่อวานนี้มีญาติของ น.ส.มลธิดา หลวงเมือง อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.15 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี หนึ่งใน 11 ศพ ที่ถูกขุดจากพื้นที่สำนักสงฆ์ฯ แล้วนำไปพักรอที่สุสานมังกรทอง ทราบข่าวและตกใจมากที่ศพของหลานสาวตัวเองมาโผล่ที่สำนักสงฆ์จังหวัดกำแพงเพชรได้อย่างไร
โดยรู้เพียงแค่ว่าหลานสาวไปทำงานในกรุงเทพฯกับสามี และก็เสียชีวิต ซึ่งก็คิดว่าประกอบพิธีเผากันไปแล้ว แต่ศพกลับมาอยู่ที่สำนักสงฆ์ฯได้อย่างไร เพราะครอบครัวก็ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ จากนี้จะเดินทางเข้ามาขอรับศพจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยนายแก่น อายุ 43 ปี คนในพื้นที่ เล่าว่า ชาวบ้านรู้อยู่บ้างว่ามีการนำศพมาทำพิธี แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีศพเยอะมากขนาดนี้ ชาวบ้านบางคนเข้าไปทำบุญก็ยังไม่รู้เลยว่ามีศพอยู่ ตนเป็นคนพื้นที่ขับรถผ่านบ่อยก็ไม่รู้เลยว่ามีการเก็บกระดูกและศพ ซึ่งคนที่ไม่บอกก็คงกลัวว่าเรื่องจะดังทำให้คนในพื้นที่กลัวจนหลอนเพราะอยู่กลางทุ่งนา หลังจากทราบข่าวเจ้าหน้าที่เอาศพออกมาเยอะตนก็ยังงงว่าจะเอามาไว้ที่นี่ทำไม น่าจะทำพิธีให้ถูกต้องตามประเพณี
ที่มา : MgrOnline