* ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเถื่อนฯ จับกุมคดีน้ำมันเถื่อนได้ 1,186 คดี * ค่าปรับรวม 34,000 ล้านบาท * ทำให้สามารถจัดเก็บภาษีน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่า 80,000 ล้านบาท * กำลังเร่งกวาดล้างเรือประมงเถื่อนดัดแปลงที่ลักลอบขนน้ำมันออกจากทะเลไทย
ศูนย์ปราบน้ำมันเถื่อนฯ โชว์ผลงานจับกุม 1,186 คดี ค่าปรับ 3.4 หมื่นล้าน ทำให้สามารถจัดเก็บภาษีน้ำมันเพิ่มกว่า 8 หมื่นล้าน เร่งกวาดเรือประมงเถื่อนดัดแปลงลักลอบขนน้ำมันให้หมดไปจากทะเลไทย

วันนี้ (22 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปนม.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนจากกรมสรรพสามิต ,กรมเจ้าท่า, กรมธุรกิจพลังงาน , สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงผลการปฏิบัติของศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง

พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า จากการป้องกันปราบปราม และการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ และการจัดทำฐานข้อมูลท้องถิ่น เช่น ปั๊มน้ำมัน ปั๊มหลอด คลังน้ำมัน แก๊ส พบว่า มีผู้ประกอบการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงสถานประกอบการที่มีระบบจัดการน้ำมันไว้ใช้เองในกิจการ จำนวน 21,019 จุด 

ขณะเดียวกันก็มีการจัดชุดปฏิบัติการควบคุมและตรวจสอบด่านศุลกากรส่งออก โดยประสานความร่วมมือกับสรรพสามิตพื้นที่ในการร่วมตรวจสอบความถูกต้องของเส้นทางการเดินรถบรรทุกน้ำมันที่ด่านถึง 9,118 ครั้ง ในการลงตรวจทั้ง 20 ด่านปลายทางทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการทุจริตลักลอบจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผิดกฎหมาย ซึ่งในภาพรวมสามารถจับกุม ปราบปราม ดำเนินคดีและปรับโทษตามกฏหมาย ได้กว่า 1,186 คดี โดยมีคดีเปรียบเทียบปรับ 706 คดี ค่าปรับรวมมากกว่า 34,000 ล้านบาท โดยศูนย์จะเร่งรัดการปฏิบัติปราบปรามเรือประมงดัดแปลงเลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ที่มีอยู่น่านน้ำไทยจำนวนมากในปีนี้ให้หมด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายทะเลสีขาว ส่วนการดำเนินการอื่นๆ ต้องรอ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้มอบหมายอีกครั้งหนึ่ง และจะมีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในภายหลัง

สำหรับ ผลการจัดเก็บรายได้ภาษีน้ำมันในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกรมสรรพสามิต) สามารถจัดเก็บรายได้ภาษีน้ำมันได้ถึง 209,827.35 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนถึง 81,419 ล้านบาท หรือติดเป็นร้อยละ 63.41 (ในปีงบประมาณ 2566 สามารถจัดเก็บรายได้ภาษีน้ำมันได้ 128,407.72 ล้านบาท)


ที่มา : MgrOnline