นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์เวที Forbes Global CEO มุ่งดันไทยเป็น Hub ภูมิภาค-หลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง
เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 18:53:35
• นายกรัฐมนตรีนำเสนอวิสัยทัศน์ต่อเวที Forbes Global CEO Conference
• มุ่งผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลาง (Hub) ในภูมิภาค
• มีเป้าหมายที่จะช่วยให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนาแบบ one-on-one ในงาน Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 โดยกล่าวถึงความมุ่งมั่นของไทยที่เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการเสริมสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วยมาตรการระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจและการเดินทาง เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลัก เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล การเชื่อมโยง การปรับโครงสร้างหนี้ของครัวเรือนและ SME โดยล่าสุด Amazon, Google และ Microsoft ได้ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ในด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และ AI ใน ประเทศไทย รวมถึงศูนย์ข้อมูล (Data Center) โดยรัฐบาลพร้อมผลักดันนโยบาย และมาตรการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการ
นอกจากนี้ ไทยพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ โดยมีที่ตั้งที่สำคัญที่เอื้ออำนวยในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างกัน และด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความเข้มแข็งรวมถึงความมั่นคงทางอาหารของประเทศ และมีบุคลากรที่มีความสามารถ เป็นรากฐานที่ทำให้ประเทศไทยเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งต่อการเติบโตในระยะยาวของภูมิภาค อีกทั้งไทยยังมีความเป็นกลางและยืดหยุ่นที่ได้รับความเชื่อมั่นในการลงทุนจากนักธุรกิจทั่วโลก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยประสบความสำเร็จในการเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น Amazon, Google และ Microsoft โดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อำนวยความสะดวกด้านการลงทุนอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนมูลค่าสูงในโครงการด้านการศึกษาและการฝึกอบรม เพื่อพัฒนากลุ่มคนที่มีทักษะนอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้าง soft power ที่คนไทยมีทักษะฝีมือ craftsmanship ที่เป็นเลิศ โดยเฉพาะวัฒนธรรมที่ยาวนานของประเทศไทย โดย รัฐบาลมีวิสัยทัศน์ในการนำมรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่ามาสร้างสรรค์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผ่านการยกระดับทักษะและการปรับทักษะใหม่ รวมทั้งการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยในต่างประเทศผ่านนโยบายต่างประเทศเชิงรุก ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใน 14 สาขา
"ในด้านการค้าและการลงทุน ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสหรัฐฯ และจีน โดยทำงานร่วมกันในธุรกิจที่สำคัญ เช่น อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เซมิคอนดักเตอร์ เศรษฐกิจดิจิทัล AI และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยรัฐบาลไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ" น.ส.แพทองธาร กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีวิสัยทัศน์ในการลงทุนด้านการศึกษา การพัฒนาทักษะ และการดูแลสุขภาพ การสร้างเศรษฐกิจที่มีพลวัต เทคโนโลยีขั้นสูง และยั่งยืน ดึงดูดนักลงทุน และผู้ประกอบการจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงการเสริมสร้างซอฟต์เพาเวอร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
ที่มา : MgrOnline