“อิ๊งค์” ร่วมเวที Forbes ลั่นวางภาพลักษณ์ไทย สงบ สันติ มั่งคั่ง ปลื้มเป็นนายกฯ หญิงอายุน้อยสุดในโลก เผยผู้นำ ตปท.ถามบ่อย “พ่อ-อา” เป็นไงบ้าง
เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 14:38:58
• รัฐบาลสร้างภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลกเป็นประเทศสงบสุขและมั่งคั่ง
• เร่งพัฒนาประเทศหลายด้าน เช่น พักหนี้เกษตรกร, แจกเงิน 10,000 บาทช่วยผู้สูงอายุ, และสานต่อนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่
• นายกรัฐมนตรีภูมิใจที่เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก
• ผู้นำต่างประเทศสอบถามถึงสุขภาพของบิดาและน้าของนายกรัฐมนตรีบ่อยครั้ง
นายกฯ ร่วมกิจกรรม Forbes Global CEO เผย รัฐบาลวางภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลก เป็นประเทศสงบ สันติ มั่งคั่ง เร่งพัฒนาหลายด้าน พักหนี้เกษตรกร-แจกเงินหมื่นช่วยผู้สูงอายุ-สานต่อ 30 บาทรักษาทุกที่ ปลื้มเป็นนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุดในโลก บอกผู้นำ ตปท.ถามบ่อย “พ่อ-อา” เป็นไงบ้าง
วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 13.05 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนาแบบ one-on-one เป็นภาษาอังกฤษ ในกิจกรรมของ Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ที่ โรงแรม The Ritz Carlton, One Bangkok ถนนวิทยุ
โดย นายกฯ กล่าวว่า ตนมีความเชื่อใจและเชื่อมั่นที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยจะเติบโต และประเทศไทยต้องการมีแหล่งเงินทุนใหม่ โดย นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการวางนโยบายการมองหาการลงทุนใหม่ เช่น Google Microsoft ซึ่งจะสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอีกมาก ในฐานะรัฐบาลและอยู่ในพรรคการเมืองเดียวกัน จึงอยากจะสานต่อนโยบายเศรษฐกิจการลงทุนต่อไป อยากจะบอกให้ทุกประเทศมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยได้เข้าร่วมประชุมสำคัญ GMS และเอเปก เพื่อให้ประเทศไทยมีตัวตนและได้โชว์ศักยภาพของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ในการลงทุนซึ่งได้ว่ามีหลายขั้นตอนทำให้ภาคเอกชนปวดหัว แต่ก็จะส่งเสริมและการพัฒนามากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลำดับความสำคัญด้านเศรษฐกิจ ว่า ต้องมีความเสถียรภาพ โดยเริ่มจากซอฟต์พาวเวอร์ เรื่อง อาหาร, คน, วัฒนธรรม และเชื่อว่า คนจะอยากเรียนรู้ โดยต้องขยายศักยภาพมากยิ่งขึ้น เช่น เทศกาลสงกรานต์ ควรจะขยายเวลา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาพักผ่อนในประเทศไทยนานมากยิ่งขึ้น ตอนนี้มีนักท่องเที่ยว 36 ล้านคน คาดการณ์ว่า ปีหน้า 2568 จะสามารถมีตัวเลขนักท่องเที่ยวเท่ากับก่อนช่วงโควิดได้
นางสาวแพทองธาร เชื่อว่า หากการเมืองมีเสถียรภาพ ก็จะสร้างความเชื่อใจเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและทุกคนมากยิ่งขึ้น จึงต้องสร้างความมั่นใจทั้งในและต่างประเทศ และทำให้คนไทยเชื่อมั่นในตัวเองว่ารัฐบาลสนับสนุนในการทำธุรกิจใหม่โดย 75% เป็น SME รัฐบาลมีการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำซึ่งจะมีการปรับกฎหมาย เพื่อลดเงื่อนไขให้ง่ายต่อการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี มองว่า โครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญซึ่งต้องทำทุกเรื่องไปพร้อมกัน เพราะเรื่องเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับประเทศไทยได้ทั้งหมด ภายใต้ความเป็นผู้นำของตนจะสามารถเชื่อมโยงกับประเทศอื่นและคนภายในประเทศประเทศไทยให้ทราบว่าตนกำลังทำอะไรอยู่แน่นอนว่าตนเป็นผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลก ถือว่าโชคดีในอาเซียนเป็นผู้หญิงคนเดียวในบรรดาผู้นำทั้งหมดในเอเปก มีแค่ 2 คน มีตนและประธานาธิบดีเปรู ที่เป็นผู้นำหญิง ซึ่งตนพยายามสร้างความเชื่อมั่น
ทั้งนี้ รัฐบาลพยายามทำหลายอย่างเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการพักหนี้ 3 ปี ให้กับเกษตรกร, ชาวนา สนับสนุนเรื่องแพกเกจการอุดหนุนเงิน 10,000 บาท การช่วยเหลือกลุ่มคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งให้ความสำคัญว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะใช้เงินเพื่อให้สะพัดภายในประเทศ
สิ่งหนึ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นจุดเด่นของประเทศไทย คือ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งมากเป็นความมั่นคงทางอาหาร ทำให้แต่ละประเทศมีความตื่นเต้นและเป็นประเทศที่สงบสุข ส่งออกอาหารที่มีคุณภาพซึ่งได้นำเสนอนโยบายเหล่านี้ต่อแต่ละประเทศ ซึ่งก็จะมีการพัฒนาเทคโนโลยี ขึ้นมาให้สามารถเก็บรักษาอาหารให้มีความสุขใหม่นำไปส่งออกให้กับประเทศต่างๆ ได้ ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีที่จะมาลงทุนในประเทศไทย
ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวว่า คำถามของผู้นำประเทศมีการถามบ่อย คือ “คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง” ซึ่งในค่ำวันนี้จะได้พบกับคุณพ่อ ส่วนคำถามที่ 2 คือ “คุณอาเป็นยังไงบ้าง” เจอ 2 คำถามนี้ตลอด ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกัน
ก่อนจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีตนได้ทำแคมเปญช่วงหาเสียงตั้งแต่ตั้งท้องอยู่ ได้ทำนโยบายการพัฒนาชุมชนต่างๆ พัฒนาแรงงานฝีมือ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าหัตถกรรม เช่น การทอผ้ามีลายที่สวยงามมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากจะผลักดันชุดและเสื้อผ้าไทยซึ่งตนก็ได้ชื่นชอบและสวมใส่ตลอด พยายามเสนอนำเสนอเมืองไทยแบบที่ตนเองรู้สึก
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนพยายามนำเสนอว่าเป็นทูตแห่งสันติภาพและความมั่งคั่งในภาพลักษณ์ของประเทศไทย คือ มีความสงบ สันติ และมั่งคั่ง ต่อเวทีผู้นำ หลายนโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้เป็นปัญหากับไทย เพราะเราส่งออกไปสหรัฐฯ ถึง 10% และพร้อมจะเปิดตลาดิทั้งส่งออกและนำเข้าด้วย ตนทราบดีว่ามีหลายฝ่ายมีข้อกังวลในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย จีน และสหรัฐฯ ประเทศไทยเรา คือ มีความสงบ สันติ และมั่งคั่ง กับการลงทุน เราต้องมั่นใจว่า เรามีความพร้อมทั้งเซมิคอนดักเตอร์ ด้านดิจิทัล ส่วนมองไปข้างหน้าอีก 5 ปีของประเทศไทย อยากให้คนมีการเรียนรู้การศึกษา โดยเฉพาะเรื่องภาษาต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหวังว่า ในอนาคตจะมีภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเมืองมีความมั่นคง ซึ่งเราได้วางแผนในระยะ 10 ปี แม้ว่าสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนก็จะมีการดำเนินนโยบายอย่างต่อเนื่อง เช่น นโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคผ่านมา 20 ปี ซึ่งขณะนี้ก็มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา : MgrOnline