"ทวี-อธิบดีกรมคุก" ไม่ยืนยันชี้แจง กมธ.มั่นคง ปม "ทักษิณ" นอนชั้น 14 ที่ปรึกษา รมว.ยธ.อ้างไม่อยู่ในอำนาจตรวจสอบ
เผยแพร่ : 21 พ.ย. 2567 13:08:14
• ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบว่านายทักษิณพักอยู่ชั้นใดของโรงพยาบาลตำรวจ
• ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม อ้างว่า ตามกฎหมายไม่มีอำนาจตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว
MGR Online - ที่ปรึกษา รมว.ยธ. เผย "ทวี-อธิบดีกรมคุก" ไม่ยืนยันเดินทางชี้แจง "ทักษิณ" นอนชั้น 14 กับ กมธ.ความมั่นคงฯ หรือไม่ ระบุตามกฎหมายไม่มีอำนาจตรวจสอบ
วันนี่ (21 พ.ย.) เวลา 11.0 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายณรงค์ หนูคง ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ , นายวรชัย บุตรดาบุตร เลขานุการกรมราชทัณฑ์ และ น.ส.วริศรา กุญชร ณ อยุธยา ผอ.กองกฎหมาย กรมราชทัณฑ์ ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมต้องการสื่อสารทำความเข้าใจ และมีหน้าที่รับผิดชอบให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง หลังจากสภาผู้แทนราษฎรมีหนังสือเชิญให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณี นายทักษิณ ชินวัตร ถูกส่งรักษาอาการป่วยโรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ซึ่งอยู่ระหว่างต้องโทษ โดยที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรมีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และ กมธ.ตำรวจ ได้มีหนังสือเรียก กรมราชทัณฑ์ ให้ส่งข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.66 โดยมี นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะ ไปชี้แจง ส่วนครั้งที่สอง กมธ.ตำรวจ ได้มีการนัดหมายให้ไปดูสถานที่จริงคือในโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีการตรวจสอบรวบรวมข้อเท็จจริงแล้ว
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ต่อมา กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้มีหนังสือถึง กรมราชทัณฑ์และผู้เกี่ยวข้อง ส่งมอบเอกสารเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 7 พ.ย.67 โดยมี นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เดินทางไปชี้แจงแล้ว จากนั้น กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้มีหนังสือเชิญระบุ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไปชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 22 พ.ย.นี้ โดยเรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมไม่มีความสบายใจและอยากให้ความร่วมมือเต็มที่ แต่เมื่อพิจารณาตามกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญและอำนาจหน้าที่ ข้อบังคับสภาผู้แทนฯ ระเบียบการประชุม เห็นว่าไม่อยู่ในอำนาจในการตรวจสอบของ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ชุดดังกล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ พิจารณาสรุปมี 3 เรื่องที่ไม่อยู่ในอำนาจของ กมธ.ความมั่นคงฯ คือ 1.ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 129 วรรค 2 การสอบหาข้อเท็จจริงต้องเป็นเรื่องในอำนาจหน้าที่ระบุไว้ในการตั้ง กมธ. ของแต่ละชุด และหน้าที่ของ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯฯ ชุดดังกล่าวมีหน้าที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ การค้าชายแดน จุดผ่านแดน ฯลฯ และผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ดังนั้น จึงไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ
2.การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวเป็นการทำงานซับซ้อนกับ กมธ.ตำรวจ ที่มีการเชิญกรมราชทัณฑ์ไปชี้แจงแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 129 (2) กรณีดังกล่าวต้องให้มีคณะกรรมการร่วมกันดำเนินการเป็นเรื่องเดียวกันและคณะทำงานเดียวกัน ซึ่งเป็นตามข้อบังคับและระเบียบการประชุม
3.ปัจจุบันมีองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. ไต่สวนรวบรวมข้อเท็จจริง ขอเอกสารจากกรมราชทัณฑ์ , สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หรือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนก็ทำความเห็นในเรื่องนี้ ซึ่งหน่วยงานองค์กรอิสระดำเนินการพิจารณาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ มีหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนฯ และ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) ส่วนกำหนดประชุมวันที่ 22 พ.ย. รมว.ยุติธรรม ยังมีความกังวลว่า กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ทำถูกต้องข้อบังคับหรือไม่ และยังไม่ให้คำตอบว่าจะเดินทางไปหรือไม่ รวมทั้ง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า รมว.ยุติธรรม อาจจะไม่เดินทางไปจึงใช้บทกฎหมายมาเป็นข้ออ้างหรือไม่ เพื่อปกปิดข้อมูล ด้าน นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ป.ป.ช. มีการตรวจสอบอยู่แล้ว มีการเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงแล้ว จึงไม่สามารถปกปิดอะไรได้ และหลายหน่วยงานที่ตรวจสอบก็มีเอกสารครบถ้วนพอสมควร ดังนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าปกปิดไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่ทำอะไร สั่งการอย่างไร แต่เมื่อพิจารณาแล้วว่าไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์จึงได้มีหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ แต่สุดท้ายแล้วต้องเป็นประธานสภาผู้แทนฯ เป็นคนพิจารณาเรียกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว
"ส่วนครั้งแรกมีเพียงตัวแทนเข้าชี้แจง จึงอาจเป็นประเด็นให้ผู้บริหารเข้ามาเองก็สามารถทำได้และติดตรงข้อบังคับไม่ใช่อำนาจหน้าที่ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ จึงส่งหนังสือให้ประธานสภาผู้แทนฯ พิจารณาว่าเป็นอำนาจหน้าที่ กมธ.ชุดดังกล่าว ก็จบ หากเรียกก็ต้องไป"
เมื่อถามว่าเกี่ยวกับกรณี นายรังสิมันต์ โรม เป็นประธานคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ และหวาดกลัวหรือไม่ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ก็คงกลัวเพราะถูกตรวจสอบแต่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐก็พร้อมชี้แจง ส่วนที่ขอเอกสารจากกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ไม่เคยได้นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ กมธ. สามารถสอบถามระดับผู้บังคับบัญชาอีกครั้งได้ ส่วนที่มองว่าอาจเอื้อประโยชน์ นายทักษิณ หรือไม่นั้น ตนมองว่าเรื่องนี้จบไปแล้ว จากนี้เป็นเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนค่ารักษาของ นายทักษิณ ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 สูงถึงหลักล้านบาทนั้น ไม่สามารถตอบได้เพราะได้รับมอบหมายเพียงการชี้แจงเรื่อง กมธ.ความมั่นคงฯ เท่านั้น นอกจากนี้ ทราบว่าตัวแทนทางโรงพยาบาลตำรวจมีรายชื่อเชิญไปเช่นกันแต่ตนไม่ทราบรายละเอียด
ที่มา : MgrOnline