“ทนายปาเกียว” เปิดใจอยากถอนตัวทุกวัน แต่ไม่มีใครมาแทน เผย 39 ล้านโยงใกล้ตัว “ตั้ม” ทุกที ชี้สอดไส้จัดการมรดก “เจ๊อ้อย” ไม่ดีเอามากๆ
เผยแพร่ : 19 พ.ย. 2567 21:31:39
• ทนายสายหยุด รับว่าคดี 39 ล้าน มีรายละเอียดเข้าใกล้ตัวทนายตั้มมากขึ้นเรื่อยๆ
“ทนายสายหยุด” เผยอยากถอนตัวจากการเป็นทนายของ “ทนายตั้ม” ทุกวัน แต่ด้วยจรรยาบรรณ รับงานมาแล้วยังไม่มีทนายคนอื่นมาแทนก็ต้องทำหน้าที่ต่อ เผยคดี 39 ล้านเรื่องราวต่างๆ เข้าใกล้ “ตั้ม” ทุกที ส่วนกรณีสอดไส้เป็นผู้จัดการมรดก “เจ๊อ้อย” เป็นเรื่องไม่ดีเอามากๆ ที่ทนายเข้าไปยุ่งเกี่ยวทรัพย์สินลูกความ
วันนี้ (19 พ.ย.) ในช่วงหนึ่งของรายการ “ข่าวใหญ่ช่อง 8” ดำเนินรายการโดยนางสาวจิตตี ศรีดี และนายชัยอนันต์ ปันชู ทางทีวีดิจิทัลช่อง 8 เครืออาร์เอส พิธีกรรายการได้เปิดเผยคำให้ส้มภาษณ์ของสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กรณีที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาเปิดเผยเมื่อวันก่อนว่า ทนายตั้มได้ตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกในพินัยกรรมของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือมาดามอ้อย แต่มาดามอ้อยไม่ยินยอม และได้ทำพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมาแทน
โดยนายสายหยุดกล่าวว่า เท่าที่ฟังอาจารย์ปานเทพให้สัมภาษณ์ หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่อาจารย์ปานเทพพูด และมาดามอ้อยต้องประสบพบเจอในลักษณะนั้น สําหรับทนายความมันไม่ดีเอามากๆ เลยครับ ไม่ดีจริงๆ ที่พยายามจะไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ทรัพย์สินของลูกความ ดูไม่ดีเลย คนที่เป็นผู้จัดการมรดกน่าจะเป็นทายาทตามกฎหมาย หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากกว่าที่จะมาเป็นทนายความ
นายสายหยุดกล่าวอีกว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย เพราะว่าตามปกติที่ออฟฟิศ ถ้าการร่างเอกสาร ร่างสัญญาก็จะเป็นงานที่น้องๆ ทําได้อยู่แล้ว แต่บางอย่างที่เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งเขาจะทําแบบนี้ ถ้าเป็นการที่เขาอาจจะปกปิด เขาย่อมไม่ให้คนรู้แน่นอน โดยธรรมชาติ
เมื่อถามว่ามีแนวโน้มทําให้ทนายคิดจะถอนตัวหรือไม่ นายสายหยุดกล่าวว่า “เรื่องนี้นะครับ ผมเองทุกวันนี้ผมก็อยากจะถอนตัวทุกวันเลยครับ แต่ด้วยจรรยาบรรณรับงานเขามา เขายังไม่มีทนายแทนนะครับ ผมก็ได้รับความกดดันจากข่าวจากอะไรอย่างนี้ แต่ผมไม่ได้ถอดใจนะ”
ส่วนคดีหลอกเอาเงินมาดามอ้อย 39 ล้านบาท นายสายหยุดกล่าวว่า ยังคงต้องรอทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา เพราะตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาทนายตั้ม ส่วนจะรับว่าความในคดีนี้ด้วยหรือไม่ขอพิจารณาก่อน พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาอะไรยังไม่รู้ แต่สุดท้ายทนายตั้มมีความประสงค์อย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าตอนนี้ก็รับข้อมูลจากนักข่าวเป็นหลัก ยังไม่มีข้อมูลอะไรที่แน่ชัดจากทางทนายตั้มเลย
อย่างไรก็ตาม นายสายหยุดกล่าวว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าเรื่องต่างๆ จะเข้าใกล้ตัวทนายตั้มเข้าไปทุกที และในส่วนของหน้าที่การเป็นทนายความ พูดตามตรงว่าเหนื่อยใจแทน
ที่มา : MgrOnline