กกต.ชวนเช็คคุณสมบัติก่อนลงสมัครอบจ. 23-27 ธ.ค. เตือนโทษหนักรู้ไม่มีสิทธิ์แต่ยังฝืนสมัคร
เผยแพร่ : 19 พ.ย. 2567 14:08:01
• ผู้สมัครที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์แต่ยังยื่นสมัคร จะมีความผิด มีโทษหนัก
• โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับสูงสุด 200,000 บาท และถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี
กกต.ชวนเช็คคุณสมบัติก่อนลงสมัครอบจ. 23-27 ธ.ค.นี้ เตือนรู้ไม่มีสิทธิ์แต่ยังลงสมัครเจอโทษหนัก คุกสูงสุด 10 ปี ปรับสูงสุด 2 แสน พร้มอตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี
วันนี้ (19พ.ย.) สำนักงานกกต.เผยแพร่คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งจะมีการประกาศรับสมัครระหว่างวันที่ 23-27 ธ.ค. 67 และมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ 68 โดยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครที่สำคัญอาทิ มีสัญชาติไทยโดยการเกิด หากสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง ส่วนผู้สมัครเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีถึงวันเลือกตั้ง มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งในวันสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
ผู้สมัครเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมาชิกรัฐสภา ส่วนผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดไม่กำหนดวุฒิการศึกษา
สำหรับลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งที่สำคัญ อาทิ เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 39(1)เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือ นักบวช (2)อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ (4)วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้งเว้นแต่ในความผิดอันเป็นการกระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ เป็นข้าราชการหรือมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมาชิกวุฒิสภาสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นต้น
ส่วนการสมัคร ผู้สมัครจะต้องยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดพร้อมหลักฐานการสมัคร อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ รูปถ่ายหน้าตรง หลักฐานการศึกษาหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครคือปี 2564 ,2565,2,566 เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ให้ทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษีพร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษี และเสียค่าธรรมเนียมในการสมัคร โดยสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเสียค่าธรรมเนียมการสมัครจำนวน 2,000 บาท สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเสียค่าธรรมเนียมจำนวน 30,000 บาท
ทั้งนี้สำนักงานกกต.ยังเตือนว่าการสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้ว่าตนเองขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครมีโทษตามมาตรา 120 พ.ร.บการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นพ.ศ. 2562 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ 2566 ที่กำหนดว่าผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาทและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี โดยผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น 2562 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ 2566 พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัดพ.ศ. 2540 แก้ไขเพิ่มเติมถึง(ฉบับที่ 5 )พ.ศ 2562 หรือเว็บไซต์สำนักงานกกต.และขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานกกต.ประจำจังหวัด และสายด่วน 1444
ที่มา : MgrOnline