* ชาวบ้านนครไทย จ.พิษณุโลก กว่า 1,400 คน คัดค้านการประกันตัว นายสมศักดิ์ จันทร์ดี และพวก รวม 15 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันฉ้อโกง * ผู้เสียหายอ้างความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท จากการถูกหลอกลงทุน * แม้แจ้งความร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้ว 3 ปี คดีไม่มีความคืบหน้า * ทนายรณรงค์ จะดำเนินการร้องเรียนต่อ ปปง. ต่อไป
พิษณุโลก - ชาวบ้านนครไทยแห่คัดค้านประกันตัว นายสมศักดิ์ จันทร์ดี และพวกรวม 15 คน “ทนายรณณรงค์” ยืนยันมี 1,400 คนเดือดร้อน เสียหาย 500 ล้านบาท ถูกหลอกลงทุน แต่ทำไม! 3 ปีนิ่งกันหมดแม้ร้องไปหลายหน่วยงาน รอบนี้จะทำเรี่องไปถึง ปปง.ให้ยึดทรัพย์ เพราะจงใจ ปกปิิดทำบัญชีธนาคารหมู่บ้าน ความเสียหายอาจถึงพันล้านบาท

วันนี้ (18 พ.ย.) นางแสงอรุณ อินแผง ชาวบ้านหมู่ 11 ตำบลนาบัว อำเภอนครไทยตัวแทนชาวบ้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมชาวบ้านอีกหลายร้อยคนในหลายหมู่บ้านหลายตำบลในอำเภอนครไทยนัดรวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เพื่อคัดค้านการประกันตัว นายก อบต.นาบัว ผู้ต้องหาฉ้อโกง พร้อมยื่นหนังสือคัดค้าน ต่อมา นายอัครโชค สุวรรณทอง ปลัดจังหวัดพิษณุโลก พร้อมนายอำเภอนครไทยและผู้กำกับการ สภ.นครไทยเดินทางมารับหนังสือและนำเรื่องไปหารือที่ห้องศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางฯ

หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นายสมศักดิ์ จันทร์ดี และพวกรวม 15 คน ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณา หรือประกาศ หรือกระทำด้วยประการโดๆ ให้ปรากฏแก่บคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ในการกู้ยืมเงินตนหรือบุคคลใด จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ตามพฤติการณ์แห่งการกู้ยืมเงินในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ ซึ่งตนเองรู้ หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นไม่สามารถประกอบกิจการใดๆโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้น จึงยื่นคัดค้านการประกันตัว นายสมศักดิ์ จันทร์ดี และพวกรวม 15 คน เนื่องจาก

1. นายสมศักดิ์ จันทร์ดี ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาบัว มีฐานเสียง เครือข่ายและผู้สนับสนุน จึงถือได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ 2. ผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ส่วนมากมีความสัมพันธ์แบบเครือญาติ ปัจจุบันกลุ่มผู้ต้องหายังมีอำนาจ บริหารจัดการธนาคารแห่งนี้ และเป็นผู้กุมอำนาจอยู่เบื้องหลังการบริหารจัดการธนาคารสาขาอีก 7 สาขา คล้ายกับคดีนี้ ข้อเท็จจริง ณ ปัจจุบัน ธนาคารแห่งนี้ยังเปิดทำการให้สมาชิกที่กู้ยืมเงินไป นำเงินต้นและดอกมาชำระคืนตามสัญญา แต่กลับอ้างกับชาวบ้านว่าไม่มีเงินให้ชาวบ้านถอน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565

แสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้ต้องหามีเจตนาบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ให้ชาวบ้านได้ถอนเงินฝากของตนเอง หากกลุ่มผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวก็จะกลับมาบริหารจัดการในลักษณะเช่นนี้ ส่งผลให้โอกาสที่ข้าพเจ้าและผู้เสียหายในคดีนี้จะได้เงินฝากของตนเองคืน มีน้อยลงเรื่อยๆ 3. คดีนี้มีความซับช้อน มีพยานหลักฐานจำนวนมาก ประกอบกับมีผู้เสียหายหลายคน มีมูลค่าความเสียหายมาก หากกลุ่มผู้ต้องหาได้ประกันตัว หวั่นจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินไปให้บุคคลอื่น

4. คดีมีอัตราโทษสูง มูลค่าความเสียหายมาก เกรงผู้ต้องหาและพวกจะหลบหนี  5. กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่พยาน อาทิ นายสมศักดิ์ จันทร์ดี โทรศัพท์มาหาข้าพเจ้าให้ไปพบที่ อบต.นาบัว แต่ข้าพเจ้าปฏิเสธ นายสมศักดิ์เลยให้คนขับรถมารับข้าพเจ้าที่บ้านให้ไปพบนายสมศักดิ์ ในห้องทำงานที่ อบต.นาบัว เมื่อไปถึงนายสมศักดิ์ได้ถามข้าพเจ้าว่าไปแจ้งความทำไม ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งกลุ่มผู้ต้องหายังบอกว่าหากใครไปแจ้งความจะไม่ให้คืนแม้แต่บาทเดียว

นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เปิดเผยว่า จะทวงถามความคืบหน้าคดีนี้จากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เหตุใด 3 ปีนิ่งกันหมด ผู้เสียหายหลายคนเสียชีวิตไปแล้วเพราะถอนเงินมารักษาตัวไม่ได้ เนื่องจากต้องไปรักษาพยาบาลหรือทำพิธีศพตัวเอง แต่ก็ไม่มีใครถอนเงินออกมาได้ ชาวบ้านจึงรวมตัวมาค้านประกันตัว หวังว่า จะขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง และตามยึดอายัดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงิน

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 3 ปีแล้ว และได้ร้องไปหลายหน่วยงานในจังหวัดพิษณุโลก แต่ไม่มีความคืบหน้า การจับกุมตัวนายกดูแล้วเริ่มดี กำลังตามต่อว่าจะไปอย่างไรต่อ เพราะมีคน 1,400 คนได้รับความเสียหาย มูลค่า 500 ล้านบาท แต่ไม่มีใครออกมายอมรับว่าเงินหมุนเวียนมีมูลค่าความเสียหายพันล้านบาท เพราะยังแจ้งความไม่ครบ ภาคราชการต้องมาช่วยกันตรวจสอบระบบการฝากเงินทำไม่เรียบร้อย จงใจทำบัญชีไม่เรียบร้อย ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร บางคนก็ตายไปแล้ว ชาวบ้านไม่ใช่คนรวย อย่างน้อยต้องยึดได้บ้าง เพราะมีเรื่องร้องเรียนแชร์ลูกโซ่และยึดทรัพย์ โดยที่ผ่านมา ปปง.มาตรวจแล้ว แต่ไม่ยึดอายัดทรัพย์ ณ วันนี้จะเริ่มรวบรวมส่งหลักฐานให้ ปปง.ยึดทรัพย์ตามกฎหมาย

จากการสอบถามชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฝากเงินได้ แต่กลับถอนไม่ได้ มานานแล้ว แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ นอกจากนี้ชาวบ้านยังถูกข่มขู่ พร้อมบอกว่าดีแล้วที่สามารถจับตัวนายก อบต.นาบัวได้ เพราะเขาเป็นประธานกลุ่มธนาคารหมู่บ้าน ชาวบ้าน 1,400 คนถูกหลอกลงทุน เพราะมีการเสนออัตราการตอบแทนให้สูงถึงร้อยละ 15% ต่อปี






ที่มา : MgrOnline