หวิดย่างสด! สาวนครพนมขับวีโก้กลับจากสนามบิน เกิดประกายไฟที่ล้อแต่มองไม่เห็น พลเมืองดีขับรถไล่ตามให้จอดก่อนไฟไหม้วอดทั้งคัน
เผยแพร่ : 18 พ.ย. 2567 10:01:01
• ประกายไฟเกิดขึ้นบริเวณล้อและข้างตัวถังรถ
• พลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ตามมาเห็นและช่วยเหลือทันเวลา
• หากช่วยช้ากว่านี้อาจทำให้รถยนต์เสียหายทั้งหมด
• กฐินช่วยเหลือให้มีโอกาสเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย
นครพนม - กุศลบุญงานกฐินช่วยไว้ สาววัย 31 ปีขับรถกลับจากส่งญาติสนามบินนครพนม ขณะเดินทางกลับบ้านพักเกิดประกายไฟบริเวณล้อและข้างตัวถังรถแต่เจ้าตัวไม่เห็น พลเมืองดีขี่ จยย.ตามมาเห็นช่วยเหลือได้ทัน เผยหากช้ากว่านี้รถวอดทั้งคันและอาจถึงแก่ชีวิตได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. คืนที่ผ่านมา (17 พ.ย.) ร.ต.ท.ปริฉัตต์ ทาบทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ บนถนน ทล.22 สายสกนคร-นครพนม ช่วงบ้านหัวโพน รอยต่อกับบ้านดอนยางนาง ต.นาทราย อ.เมือง หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิง อบต.นาราชควาย รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ปภ.นครพนม
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ฝั่งขาเข้าตัวเมือง พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ 4 ประตู ทะเบียน ขข 3567 นครศรีธรรมราช สภาพรถถูกไฟไหม้วอดทั้งคันดำเป็นตอตะโก มีหญิงสาวคนขับทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.เมราณี ศรีนวลปาน อายุ 31 ปี ชาว อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ทำงานที่อุตสาหกรรม จ.สกลนคร หลังเกิดเหตุหนีลงจากรถได้ทัน แจ้งว่าลืมโทรศัพท์ไว้ในตัวเมือง พลเมืองดีที่มาพบพาไปเอาโทรศัพท์หลังแวะไปกินข้าวที่ร้านอาหารใน ต.หนองญาติ
สอบสวนทราบว่า น.ส.เมราณี คนขับรถกระบะวีโก้คันดังกล่าว ขับจากไปงานผ้าป่ากับเพื่อนที่ จ.มุกดาหาร ขากลับไปส่งญาติที่สนามบินนครพนม ห่างจากตัวเมืองราว 15 กิโลเมตร ขากลับนึกได้ว่าลืมโทรศัพท์ไว้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่บ้านดอนโมง ต.หนองญาติ จึงขับย้อนจะกลับไปเอาก่อนกลับบ้านที่ จ.สกลนคร
ขณะมาถึงที่เกิดเหตุมีพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมา พบประกายไฟด้านข้างตัวรถ พลเมืองดีรายนี้มาดึงออกจากตัวรถ โชคดีที่ไม่บาดเจ็บและเสียชีวิต
ผู้พบเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้ขี่รถตามหลังรถคันนี้มา พบเห็นรถคันนี้มีสะเก็ดไฟที่ล้อหน้าขวา แต่คาดว่าเจ้าตัวคงไม่รู้ จึงรีบขี่รถตามไป เปิดประตูกระชากหญิงคนขับรายนี้ออกมาจากรถ แต่ยังไม่มีอุปกรณ์ดับไฟ เกรงว่ารถจะระเบิด บังเอิญรถบรรทุกโม่ปูน 2 คันผ่านมาประสบเหตุ จึงได้ฉีดน้ำเลี้ยงที่อยู่ในถังพัก ก่อนที่รถดับเพลิงของ อบต.นาราชควาย จะมาฉีดน้ำระงับเปลวเพลิงนาน 5 นาที หลังเพลิงสงบเพลิงไหม้วอดเสียหายทั้งคัน
หลังเกิดเหตุ น.ส.เมราณีจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม เนื่องจากรถมีประกันภัย ก่อนที่จะประสานรถลากนำซากรถคันที่เกิดเพลิงไหม้ไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม
ที่มา : MgrOnline