“สุริยะ” ลุยแก้ตั๋วเครื่องบินแพงช่วงปีใหม่ 68 หารือ 6 แอร์ไลน์เพิ่มไฟลต์ รองรับอีกกว่า 7.3 หมื่นที่นั่ง
เผยแพร่ : 18 พ.ย. 2567 08:40:12
• ร่วมมือ 6 สายการบิน เพิ่มเที่ยวบิน 247 เที่ยวบิน ที่นั่ง 73,388 ที่นั่ง
• เปิดให้จองตั๋วตั้งแต่ 18 พ.ย. 67
• ทอท. และ ทย. ขยายเวลาให้บริการสนามบิน
• กพท. ติดตามราคาตั๋วอย่างใกล้ชิด
"สุริยะ" ลุยแก้ปัญหาตั๋วเครื่องบินแพงช่วงเทศกาลปีใหม่ หารือ 6 สายการบินเพิ่ม 247 เที่ยวบิน เพิ่มที่นั่งอีก 73,388 ที่นั่ง เตรียมเปิดให้จองได้ตั้งแต่ 18 พ.ย. 67 มอบ ทอท.-ทย.ขยายเวลาสนามบินช่วงเช้าและดึก กำชับ กพท.ติดตามราคาตั๋วอย่างใกล้ชิด
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตั๋วเครื่องบินมีราคาสูงในช่วงปลายปี และเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27-28 ธันวาคม 2567 และวันที่ 1-2 มกราคม 2568 เนื่องจากมีความต้องการเดินทางมากกว่าปกติประกอบกับสายการบินยังมีจำนวนอากาศยานน้อยกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ประมาณ 76 ลำ หรือคิดเป็น 25% ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการโดยสารด้วยเครื่องบินโดยตรง
ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ติดตามสถานการณ์ค่าโดยสารอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้หารือร่วมกับสายการบินและหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มเที่ยวบินให้เพียงพอต่อปริมาณความต้องการในการเดินทาง และแก้ปัญหาราคาตั๋วแพงในช่วงวันหยุดยาว พร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายเตรียมการเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย
ล่าสุดได้รับความร่วมมือจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สมาคมสายการบินประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย สายการบินบางกอกแอร์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท จัดทำแผนเพื่อเพิ่มเที่ยวบิน รวมถึงปรับชนิดอากาศยานให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อทำการบินทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นครพนม เชียงใหม่ เชียงราย น่าน กระบี่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และสมุย
ในการนี้ สมาคมสายการบินประเทศไทยจะมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น 247 เที่ยวบิน และมีจำนวนที่นั่งเพิ่มถึง 48,244 ที่นั่ง ซึ่งจำนวนที่นั่งที่เพิ่มมานี้จะมีตั๋วราคาไม่สูงรวมอยู่ด้วย และจะเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 โดยตั๋วเที่ยวบินพิเศษที่เพิ่มมานี้จะเข้าสู่ระบบการขายตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567
ส่วนบริษัทการบินไทย จะมีการปรับขนาดอากาศยานเพื่อให้มีจำนวนที่นั่งมากขึ้นในบางวัน ในเส้นทาง ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2567 ไปจนถึงต้นเดือนมกราคม 2568 และทำให้มีจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 25,144 ที่นั่ง ดังนั้นจึงมีที่นั่งเพิ่ม 73,388 ที่นั่ง
นอกจากนี้ ได้ให้ กพท.ประสานหน่วยงานด้านการบินทั้งสายการบิน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บริษัท การบินกรุงเทพ และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เพื่อวางแผนจัดสรรตารางเวลาการบินของสนามบิน และขอขยายเวลาการให้บริการเพื่อให้สายการบินสามารถทำการบินได้มากขึ้นทั้งช่วงเช้าและช่วงดึก และขอให้สนามบินที่มีการจราจรคับคั่งผ่อนผันเวลาการเปิดให้บริการเพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง โดยเฉพาะวันที่ 27-28 ธันวาคม 2567 และวันที่ 1-2 มกราคม 2568 ซึ่งจะเป็นช่วงมีการเดินทางสูงกว่าช่วงเวลาปกติ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางในช่วงเทศกาล เนื่องจากจะมีความต้องการในการเดินทางสูงกว่าช่วงเวลาปกติ จึงทำให้ตั๋วโดยสารมีราคาสูงขึ้นตามความต้องการ รวมทั้งขอให้ตรวจสอบราคาค่าโดยสารผ่านช่องทางต่างๆ ก่อนทำการซื้อ โดยเฉพาะการซื้อผ่านตัวแทนออนไลน์หรือ OTA ในเวลากระชั้นชิด ที่อาจพบราคาตั๋วที่สูงกว่าปกติ
และแนะนำให้ซื้อตั๋วโดยสารตรงกับเว็บไซต์ของสายการบินเนื่องจากมีการควบคุมราคาเพดานค่าโดยสารจาก กพท. รวมทั้งเมื่อเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงการเดินทางหรือต้องการการชดเชยกรณีต่างๆ ผู้โดยสารจะสามารถประสานโดยตรงกับสายการบินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดย กพท.จะทำการตรวจสอบราคาค่าโดยสารในช่วงเทศกาลอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ค่าโดยสารเกินกว่าราคาเพดานที่กำหนด หากประชาชนพบเห็นการขายตั๋วเครื่องบินเกินเพดาน สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ https://portal.caat.or.th/complaint/
อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางไปสนามบิน เนื่องจากช่วงเทศกาลจะมีปริมาณการเดินทางหนาแน่น และขอให้ผู้โดยสารติดตามข่าวสารจากทางสายการบิน ศึกษาเรื่องเอกสารที่ต้องใช้ในการเดินทาง รวมถึงสิทธิของผู้โดยสารหากเที่ยวบินล่าช้า หรือถูกยกเลิก ได้จากจุดประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อให้เข้าใจและสามารถผ่านจุดตรวจต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น
ที่มา : MgrOnline