MGR Online - เลขาธิการ ป.ป.ส. เผย ครบรอบ 48 ปี สานต่อภารกิจปราบยาเสพติดจาก 25 จังหวัด สู่ระดับประเทศ นำ "ธวัชบุรี โมเดล" มาใช้ แย้มเตรียมทลายเครือข่ายข้ามชาติ เร็วๆ นี้

วันนี้ (15 พ.ย.) ณ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า เนื่องในวันครบรอบสถาปนา 48 ปี สำนักงาน ป.ป.ส. มีความมุ่งมั่นและตั้งใจปฏิบัติงานสานต่อภารกิจในปี 2568 เรื่องแผนการป้องกันและปราบปรามการแก้ไขปัญหายาเสพติด มีการถอดบทเรียนต่อเนื่องจากปี 2567 โดยเฉพาะการเน้นพื้นที่แพร่ระบาดในห้วงวันที่ 1 มิ.ย. - 31 ส.ค.67 ขณะนั้นรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ได้กำหนดจังหวัดที่มีการแพร่ระบาด 25 จังหวัด มอบหมายให้ ป.ป.ส. เขียนแผนปฏิบัติ สอดคล้องกับปัญหายาเสพติดจังหวัดนั้นๆ เพื่อกำหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจน มีการติดตาม รายงานและประเมินผล

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า หลังครบ 3 เดือนแล้ว ได้ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติประเมินผล ปรากฏว่าใน 25 จังหวัด พบว่าจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่เป็นซีอีโอ อย่างแท้จริง ประสานงานกับผู้บังคับการจังหวัด , สาธารณสุขจังหวัด และผู้นำท้องถิ่น อบจ. อบต. ทำให้ชาวบ้านเห็นว่ายาเสพติดเป็นปัญหาร่วมกัน ซึ่งจังหวัดนั้นๆ สถานการณ์แพร่ระบาดยาเสพติดลดลง ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น ก็เลยเอาโมเดล 25 จังหวัด ประกอบกับนโยบายนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ให้นำเอา "ธวัชบุรี โมเดล" มาเป็นต้นแบบแก้ปัญหา ในปีงบประมาณ 2568 ทั้ง 76 จังหวัด และ กทม.

"โดย รมว.ยุติธรรม มอบหมาย เลขาธิการ ป.ป.ส. ติดตามแก้ไขผ่านศูนย์ปฏิบัติการฯ จะประเมินเดือนละ 2 ครั้ง จนถึงเดือน ส.ค.68 และจะให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประเมินอีกครั้งว่าสิ่งที่ดำเนินการมา เช่น ตำรวจจับผู้ค้ารายย่อยได้กี่ราย ยึดทรัพย์เท่าไหร่ รวมถึง ตัวชี้วัดระดับอำเภอ ส่วนในมิติการบำบัด กระทรวงสาธารณสุข นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดกี่ราย ส่วนฝ่ายปกครอง มีการตรวจสถานบริการ จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพสังคมครบหรือไม่ ผู้เสพรักษาหายแล้วมีงานทำหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนภาพใหญ่"

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า อาเซียนและประชาคมโลกยังปล่อยประเทศไทยโดดเดี่ยว ตนยืนยันว่าแหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่ของโลก คือ พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และใช้ประเทศไทยในทางผ่านโดยเฉพาะเฮโรอีน ไอซ์ ไปออสเตรเลีย ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ส่วนยาบ้าแพร่ระบาดในประเทศไทย ส.ป.ป.ลาว และเมียนม่า ซึ่งตนได้พบกับเลขาธิการอาเซียน ร้องขอว่าอย่าโดดเดี่ยวกับประเทศไทย และอาเซียนต้องช่วยกัน แต่ปัญหามีหลายประเทศต้องการเงินทุน ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ช่วยเงินบางส่วนให้การช่วยเหลือแล้วแต่เงินก้อนนั้นยังไม่พอ ที่สำคัญ UNODC ต้องเข้ามาช่วยด้วยเพราะที่ผ่านมา ประเทศอัฟกานิสถาน แหล่งผลิตฝิ่นรายใหญ่ของโลก ยังช่วยจนหมดและย้ายฐานผลิตมาอยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวเสริมว่า ส่วนเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาตินั้น แหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่จะอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแต่พ่อค้ารายใหญ่ทั้งคนไทยและต่างชาติยังหลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดย ป.ป.ส. เปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 1 ไปแล้ว มีการออกหมายจับ พ.อ.จะลอโบ และยึดทรัพย์สินในประเทศไทย กว่า 66 ล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศและสนธิสัญญา MLAT ซึ่งปลายเดือน พ.ย.นี้ จะมีการจับกุมพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวเมียนมาร์และชาวไทยบางส่วน รวม 13 ราย ใน 5 จังหวัดภาคเหนือ และเตรียมดำเนินการยึดทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท ที่อยู่ในประเทศไทย


ที่มา : MgrOnline